Wednesday, March 4, 2015

รอยแผลเป็นหายได้..เมื่อรู้วิธีการรักษา

รอยแผลเป็นหายได้..เมื่อรู้วิธีการรักษา
ปัญหาในเรื่องรอยแผลเป็น  เป็นเรื่องที่สร้างปัญหาให้กับใครหลายๆคน  แต่เชื่อหรือไม่ว่าในปัจจุบันในเรื่องนี้สามารถบรรเทาอาการได้ด้วยวิธีต่างๆ   ซึ่งรอยแผลเป็นก็มีอยู่หลายแบบด้วยกัน  ซึ่งในแต่ละแบบมีวิธีในการรักษาที่แตกต่างกันไปดังนี้
·      รอยแผลเป็นที่เป็นสีปกติ    มักจะเป็นรอยแผลเป็นที่รอยคล้ำหรืออ่อนกว่าสีผิวปกติ  ซึ่งถือว่าเป็นรอยแผลเป็นที่รักษาค่อนข้างง่ายี่ส่วนใหญ่เกิดมาจากการแกะสิว
·      รอยแผลเป็นที่มีการดึงรั้ง  เป็นรอยที่เกิดจากการที่ผิวหนังเกิดการดึงรั้ง และเหี่ยวย่น  ซึ่งมักจะเกิดในส่วนของบริเวณฝ่ามือและฝ่าเท้า  หลังจากการประสบอุบัติเหตุต่าง ๆ
·      รอยแผลเป็นที่มีลักษณะนูน  จะมีอยู่  2  แบบ  คือ นูนแบบปกติ  ที่จะไม่เกิดการขยายตัวและมีขนาดเล็กลงได้  หากมีการนวดมันเป็นประจำและอย่างสม่ำเสมอ  ส่วนแผลนูนอีกแบบนั้นเรียกว่า  คีลอยด์   มักจะมีอาการคันและสามารถลามไปยังบริเวณต่างๆของร่างกายได้ มีลักษณะแข็งอีกต่างหาก
โดยการรักษารอยแผลเป็น  ปัจจุบันสามารถทำได้หลายวิธี  ซึ่งก็ขึ้นอยู่ว่าเป็นรอยแผลเป็นแบบใด  ซึ่งการรักษารอยแผลเป็นมีดังต่อไปนี้
·      การใช้ยาทา เป็นวิธีที่เหมาะกับรอยแผลประเภทที่เป็นรอยแผลเป็นลักษณะสีผิวที่เข้มขึ้นหรือว่าอ่อนจางลง 
·      ฉีดยาสเตียรอยด์  วิธีนี้เหมาะกับรอยแผลเป็นใหญ่ ๆ   ซึ่งเป็นการจะฉีดยาพวกสเตียรอยด์เข้าไปใต้รอยแผลเป็น เพื่อที่จะให้รอยแผลเป็นยุบตัวลงไป  และค่อย ๆ แคบลง 
·      ฉายเลเซอร์   วิธีเหมาะแก่การรักษารอยแผลเป็นี่มีลักษณะแผลตื้น  หรือว่าเป็นแปลที่เป็นลักษณะสีผิวดำคล้ำหรือว่าจางกว่าสีผิวปกติ
 นอกจากวิธีต่างๆเหล่านั้นแล้วก็ยังมีอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยทำให้รอยแผลเป็นเล็กจางลงได้  คือ  การใช้ผักผลไม้มาใช้ในการรักษา  ซึ่งสมุนไพรผักผลไม้หลายชนิดที่มีสรรพคุณในการรักษาแผลเป็น  อย่างเช่น  ว่านหางจระเข้  ทาวันละ  3 – 4  ครั้ง  หรือการใช้น้ำมะนาวผสมดินสอพองทาวันละ  2 – 3  ครั้ง  หรืออาจจะเลือกใช้ครีมบำรุงผิวที่มีสารสกัดจากแตงกวาก็ได้ผลในการรักษาเช่นกัน


          แต่อย่างไรก็ดี  วิธีต่างๆที่ใช้ในการรักษาจำเป็นที่จะต้องเวลาในการรักษาและขึ้นอยู่กับขนาดของรอยแผลเป็นด้วย   ดังนั้นหากว่าไม่อยากจะเสียเวลาในการรักษารอยแผลเป็นเป็นรยะเวลานานก็จะต้องป้องกันตั้งแต่เนิ่น ๆ จะดีกว่าด้วยการไม่แกะสิว  หรือไม่แกะแผลที่กำลังตกสะเก็ด 

No comments:

Post a Comment