4 วิธีในการรักษารอยแผลเป็นจากการผ่าตัด
รอยแผลเป็นต่าง ๆ มักจะสร้างความกังวลใจให้กับผู้ที่มีรอยแผลเป็นอยู่เสมอ ไม่ว่าแผลนั้นจะมีขนาดใหญ่หรือเล็กก็ตามล้วนแล้วแต่ทำให้หมดความมั่นใจไปซึ่งในปัจจุบันมีวิธีดี ๆ หลากหลายรูปแบบที่เป็นตัวช่วยในการดูแลแก้ไขปัญหารอยแผลเป็นจากการผ่าตัดซึ่งสามารถทำการรักษาหรือตกแต่งให้แผลลดน้อยลงหรือดูดีได้จนเกิดความมั่นใจมากยิ่งขึ้นด้วย 4 วิธีการดังต่อไปนี้
1. การรักษาโดยการใช้ยาและแผ่นซิลิโคนเจล
เป็นการรักษาเบื้องต้นก่อนการดำเนินการรักษาขั้นอื่น ๆ เนื่องจากแผลผ่าตัดของบางคนมีขนาดและร่องรอยขนาดเล็กที่สามารถรักษาได้ด้วย การทายาแก้รอยแผลเป็นหรือแปะแผ่นซิลิโคนเจลที่มีส่วนผสมของยาสเตรอยด์ วิตามินอี วิตามินเอ ลงบนรอยแผลเป็นซึ่งจะช่วยทำให้ยุบลงได้
เป็นการรักษาเบื้องต้นก่อนการดำเนินการรักษาขั้นอื่น ๆ เนื่องจากแผลผ่าตัดของบางคนมีขนาดและร่องรอยขนาดเล็กที่สามารถรักษาได้ด้วย การทายาแก้รอยแผลเป็นหรือแปะแผ่นซิลิโคนเจลที่มีส่วนผสมของยาสเตรอยด์ วิตามินอี วิตามินเอ ลงบนรอยแผลเป็นซึ่งจะช่วยทำให้ยุบลงได้
2. การรักษาด้วยการฉีดด้วยสเตรอยด์
เป็นการช่วยลดการนูน อักเสบ บวมของรอยให้นิ่มหรือยุบตัวลงด้วยวิธีการฉีดตัวยาสเตรอยด์เข้าไปบริเวณแผลเพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์ผิวหนังในบริเวณแผลและช่วยลดความคัน ในบริเวณปากแผลได้
เป็นการช่วยลดการนูน อักเสบ บวมของรอยให้นิ่มหรือยุบตัวลงด้วยวิธีการฉีดตัวยาสเตรอยด์เข้าไปบริเวณแผลเพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์ผิวหนังในบริเวณแผลและช่วยลดความคัน ในบริเวณปากแผลได้
3. การรักษาด้วยการผ่าตัดศัลยกรรม
วิธีนี้จะเป็นขั้นตอนที่ช่วยตกแต่งแผลเดิมให้ดีขึ้นด้วยการผ่าตัดเย็บแผลใหม่ลงไปแทน เสมือนเป็นการปรับลดขนาดแผลให้เล็กลงอีกด้วย ซึ่งส่วนใหญ่แพทย์จะทำควบคู่ไปกับการฉีดสเตรอยด์และทายาเพื่อช่วยให้แผลหายได้รวดเร็วขึ้น
วิธีนี้จะเป็นขั้นตอนที่ช่วยตกแต่งแผลเดิมให้ดีขึ้นด้วยการผ่าตัดเย็บแผลใหม่ลงไปแทน เสมือนเป็นการปรับลดขนาดแผลให้เล็กลงอีกด้วย ซึ่งส่วนใหญ่แพทย์จะทำควบคู่ไปกับการฉีดสเตรอยด์และทายาเพื่อช่วยให้แผลหายได้รวดเร็วขึ้น
4. รักษาด้วยการทำเลเซอร์
การทำเลเซอร์ลำแสงต่าง ๆ นี้จะช่วยลบและตกแต่งชั้นผิวที่นูนให้ดูเรียบเนียนขึ้น ซึ่งต้องให้แพทย์พิจารณาตามความเหมาะสมของแผลเป็น
การทำเลเซอร์ลำแสงต่าง ๆ นี้จะช่วยลบและตกแต่งชั้นผิวที่นูนให้ดูเรียบเนียนขึ้น ซึ่งต้องให้แพทย์พิจารณาตามความเหมาะสมของแผลเป็น
อย่างไรก็ดีหากเลือกวิธีการรักษารอยแผลเป็นจะด้วยวิธีใดก็ตามเมื่อแผลหายดีแล้ว ก็ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์และดูแลผิวหนังบริเวณแผลไม่ให้เกิดรอยแผลซ้ำขึ้นมาอีก
No comments:
Post a Comment