Friday, September 8, 2017

การรักษาโรครูมาตอยด์ในปัจจุบัน ส่วนใหญ่จะอาศัยความรู้วิทยาศาสตร์การแพทย์ก้าวหน้า

โรครูมาตอยด์...แค่กินยาแอสไพรินก็หายได้จริงหรือ??
การรักษาโรครูมาตอยด์ในปัจจุบัน ส่วนใหญ่จะอาศัยความรู้วิทยาศาสตร์การแพทย์ก้าวหน้า  ซึ่งพบว่ามียาระงับข้ออักเสบ มากมายหลายสิบอย่าง หลายๆ คนที่เกิดอาการป่วยเป็นโรครูมาตอยด์ หากรีบทำการรักษาอย่างถูกวิธีอาจทำให้โรคดังกล่าวค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ แต่หากปล่อยไว้โดยคิดว่าไม่เป็นอะไร อาจส่งผลร้ายต่างๆ ตามมา โดยเฉพาะภาวะแทรก ซ้อนของโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ เพราะหากปล่อยให้เป็นโรครูมาตอยด์จนเรื้อรัง และมีข้อผิดรูปจนเกิดความพิการในผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงแล้ว การเกิดภาวะแทรกซ้อนอาจเกิดขึ้นในอวัยวะอื่นๆ ได้   ทางที่ดีควรรักษาอย่างต่อเนื่องจนหายเป็นปกติหรือดีขึ้นด้วยวิธีที่ถูกต้อง โดยเฉพาะการกินยาแอสไพรินที่จะต้องมีติดตัวไว้ตลอดสำหรับผู้ป่วยรูมาตอยด์

โรครูมาตอยด์รักษาด้วยการใช้ยาแอสไพริน
การใช้ยาระงับปวดข้อหรือไขข้ออักเสบของโรครูมาตอยด์  ส่วนใหญ่จะใช้ ยาแอสไพริน  ซึ่งเป็นยาเก่าแก่ที่ใช้กันมากว่าหนึ่งร้อยปี แต่ต้องกินในขนาดที่ถูกต้องและนานพอ ซึ่งยาที่ใช้ได้ผลดีมากทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ จะอยู่ที่ประมาณ 60-80 มิลลิกรัมต่อน้ำหนัก  1  กิโลกรัมต่อวัน แบ่งให้วันละ  3-4 ครั้ง หลังอาหารและกินร่วมกันกับยาน้ำลดกรดหรือยาเคลือบกระเพาะ  เมื่อกินติดต่อกันทุกวันภายในสัปดาห์แรก จะพบว่าอาการปวดข้อทุเลาลง ส่วนผู้ที่มีอาการไข้ก็จะหายไป  สัปดาห์ที่สองหากมีอาการบวม ตึง ของข้อต่าง ๆ จะค่อย ๆ ลดลงอย่างช้า ๆ และเริ่มขยับข้อได้ดีขึ้น  

ยาแอสไพรินดีต่อใจแค่ไหน..กับรูมาตอยด์
ผู้ป่วยที่มีอาการรูมาตอยด์ มีอาการข้ออักเสบจะดีขึ้นมากหลังจากการกินยาแอสไพรินเพียงอย่างเดียว แต่หากใครที่กินแอสไพรินแล้วมีอาการแสบท้อง ปวดท้อง หรือระคายกระเพาะ ควรพยายามกินยาลดกรดเพิ่มขึ้น แม้ว่าในปัจจุบันมียาระงับการอักเสบหลายสิบชนิด แต่ก็ยังไม่มียาตัวไหนที่มีฤทธิ์ระงับอาการอักเสบของโรครูมาตอยด์ได้ดีกว่าแอสไพริน และยานี้ก็ใช้ได้ปลอดภัยมากในระยะยาว และยังเป็นยาที่ถูกที่สุดในบรรดายาระงับข้ออักเสบทั้งหลายหากเทียบกับยาอื่นที่มีราคาแพงและอาจมีผลข้างเคียงบางอย่างที่ไม่คาดคิดอีกด้วย

กว่าอาการจะทุเลาจนร่างกายเกือบเป็นปกติจากโรครูมาตอยด์นั้น จะต้องใช้เวลาอย่างน้อยประมาณ  3-4 เดือน แต่จะต้องกินยาแอสไพรินติดต่อกันไปเรื่อย ๆ เมื่อรู้สึกแข็งแรงจนเป็นปกติแล้วจึงค่อยหยุดยา    


สถานะ : Public

No comments:

Post a Comment