Thursday, November 24, 2016

เผยแนวทางในการระวังสารเคมีในการกำจัดขนถาวร

เผยแนวทางในการระวังสารเคมีในการกำจัดขนถาวร
เรื่องของความสวยความงามเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งโดยเฉพาะกับผู้ที่กำลังก้าวสู่วัยเป็นหนุ่มสาววัยรุ่นผมสักเส้นยังไม่อยากให้กระดิก ขนรักแร้ หน้าแข้ง ขนแขน ไรหนวด ที่ขึ้นมารู้สึกมันเป็นส่วนเกินจนต้องการที่กำจัดขนถาวรให้ขนหมดไปจึงคิดหาวิธีกำจัดขนอันไม่พึงประสงค์ขึ้นมา ตั้งแต่การใช้วิธีธรรมชาติอย่างการถอน  การโกน และจนถึงพึ่งพาสารเคมี  เช่น  ครีมกำจัดขน   ที่แสนจะสะดวก ง่าย ผิวหนังเรียบ และขนก็หายไปได้ราวปลิดทิ้ง
http://stopgrow.lnwshop.com/
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านโรคผิวหนัง ได้ให้ข้อแนะนำเกี่ยวกับเรื่องครีมกำจัดขนไว้ดังนี้ 
ครีมกำจัดขน (chemical depilatorie) ที่วางขายอยู่ในท้องตลาดปัจจุบันนี้ จะมีทั้งในรูปครีม ออยน์เม้นท์ เจล โฟม                 และโรลออน ซึ่งครีมที่ใช้ได้ผลส่วนใหญ่ประกอบไปด้วยสารเคมีจำพวกซัลไฟลด์ (sulfide) ซึ่งออกฤทธิ์เร็วและได้ผลดี แต่เวลาใช้ครีมตัวนี้จะทำให้เกิดก๊าซที่เรียกว่าก๊าซไข่เน่าซึ่งมีกลิ่นเหม็น และทำให้ผิวระคายเคือง
หลาย ๆ คนต้องการกำจัดขนถาวรด้วยการใช้ครีม เพราะขนเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ในวัยรุ่นหรือวัยเด็กถ้าหากอยากใช้จริง ๆ ก็ควรอยู่ภายใต้การดูแลของผู้ปกครอง อย่าเลือกใช้เองตามลำพังเพราะอาจทำให้เกิดอันตรายได้ 
ก่อนที่จะกำจัดขนถาวรด้วยการใช้ครีมนั้นก็ควรอ่านฉลากยาและวิธีใช้ให้เข้าใจถ่องแท้เสียก่อน เพราะครีมไม่ได้ออกฤทธิ์ที่เส้นขนอย่างเดียว แต่ยังออกฤทธิ์ที่ผิวหนังส่วนนอกด้วย ซึ่งอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้ และระดับความรุนแรงของอาการนั้นจะขึ้นอยู่กับชนิดของผลิตภัณฑ์ที่ใช้ด้วย

โรคพาร์กินสัน เป็นโรคเรื้อรังที่เกิดขึ้นเนื่องจากความเสื่อมของเซลล์ประสาทในก้านสมอง

เทคนิคในการสังเกตอาการของโรคพาร์กินสันอย่าปล่อยให้โรคนี้ทำลายชีวิตคนที่คุณรักอีกต่อไป 

โรคพาร์กินสัน เป็นโรคเรื้อรังที่เกิดขึ้นเนื่องจากความเสื่อมของเซลล์ประสาทในก้านสมอง ทำให้มีการผลิตสารที่ชื่อสารโดปามีนน้อยลง ส่งผลให้สมองสูญเสียการควบคุมการสั่งงานของกล้ามเนื้อ  แต่ด้วยวิทยาการความก้าวหน้าทางการแพทย์ในโลกปัจจุบันนี้สามารถที่จะพิชิตโรคพาร์กินสันได้

เทคนิคการสังเกตอาการที่อาจบ่งบอกว่าอาจเป็นโรคพาร์กินสัน       
อาการของผู้ป่วยโรคพาร์กินสันนี้ที่สำคัญคือ อาการเสียการทรงตัว  อาการสั่น อาการเกร็ง และอาการเคลื่อนไหวช้า
1.  อาการเสียการทรงตัว
ผู้ป่วยมักมีท่าหลังงอ ไหล่ห่อ เข่าย่อลงเนื่องจากมีการแข็งเกร็งของกล้ามเนื้อทั่วร่างกาย มีการเดินไม่ถนัด ทำกิจวัตรประจำวันได้น้อยลงหรือไม่ได้ 
2.  อาการสั่น 
เป็นอาการที่พบบ่อยที่สุด มักเป็นที่ส่วนปลายคือนิ้วมือหรือแขนท่อนล่าง โดยอาการจะเริ่มสั่นเพียงข้างเดียวก่อน และเป็นอยู่นานเป็นปีก่อนจะข้ามมาเป็นอีกข้างหนึ่ง อาการสั่นนี้จะเป็นในขณะอยู่เฉยๆหรือนั่งนิ่งๆ และจะลดลงหรือหายไปหากผู้ป่วยมีการเคลื่อนการผ่าตัดรักษาโรคพาร์กินสัน และในระยะท้ายของโรคนี้อาการสั่นจะรุนแรงมากขึ้นอาจพบมีอาการสั่นบริเวณ ศีรษะ  เท้า  และบริเวณขากรรไกรด้วย
3.  อาการเกร็ง
มักพบตามลำตัวและแขนมากกว่าขา อาการแข็งเกร็งจะเป็นมากขึ้น เมื่อมีการเคลื่อนไหวหรือขยับ และจะดีขึ้นในขณะผ่อนคลายหรือหลับ สังเกตได้ว่าเวลาเดินผู้ป่วยมีการแกว่งแขนน้อยลง สีหน้าเฉยเมย กะพริบตาน้อยลง พูดเสียงเบา
4.  อาการเคลื่อนไหวช้า 
เนื่องจากมีการแข็งเกร็งของกล้ามเนื้อ ทำให้ผู้ป่วยมีการเคลื่อนไหวช้าลง และมีการขยับตัวน้อยกว่าคนปกติทั่วไป เช่น ไม่ค่อยเกา ไม่ค่อยเปลี่ยนท่วงท่า  เป็นต้น
       
อาการสั่นเป็นอาการเริ่มต้นของโรคพาร์กินสัน มักสั่นมากเวลาอยู่นิ่ง ๆ แต่ถ้ามีการเคลื่อนไหวหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ อาการสั่นจะลดลงหรือหายไปเอง

ความรู้เรื่องแนวทางในการรักษาผู้ป่วยโรคหนังแข็ง (systemic sclerosis)

ความรู้เรื่องแนวทางในการรักษาผู้ป่วยโรคหนังแข็ง (systemic sclerosis)
ปัจจุบันยังไม่มีการรักษาโรคหนังแข็งที่ได้รับการพิสูจน์ว่าสามารถหยุดยั้งการดำเนินโรคได้  จึงทำได้โดยการให้การรักษาตามอาการและประคับประคองจนกว่าโรคจะเข้าสู่ระยะสงบหรือหายได้เอง  และเฝ้าระวังพยาธิสภาพที่เกิดกับอวัยวะภายในที่สำคัญ เช่น ไต ปอดและหัวใจ เพื่อให้การรักษาที่จำเพาะซึ่งพิสูจน์ว่าสามารถลดอัตราตายของผู้ป่วยโรคหนังแข็งได้
แนวทางการรักษา
โรคหนังแข็งเป็นโรคที่เรื้อรัง แพทย์ต้องแนะนำให้ผู้ป่วยเข้าใจถึงโรค และวิธีการทำกายภาพบำบัดเพื่อความคล่องตัวในการใช้ชีวิตประจำวันให้เหมาะสมกับสภาพร่างกาย  ผู้ป่วยต้องเข้าใจว่าบางครั้งโรคนี้อาจหายได้เองแม้จะต้องใช้เวลานาน  และในขณะเดียวกันจะต้องเฝ้าระวังไม่ให้โรคลุกลามไปยังอวัยวะภายในเพื่อที่จะได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
การดูแลตัวเองเมื่อเป็นโรคหนังแข็ง
ประคบอุ่น สวมถุงมือ หลีกเลี่ยงอากาศเย็น อาบน้ำอุ่นพอให้สบายแต่ไม่ควรให้น้ำนั้นร้อนจัด ใช้สบู่อ่อน ๆ และขัดถูร่างกายเพียงเบาๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวแห้งแตก และใช้ครีมทาผิวหนังหลังอาบน้ำ  ถ้าโดยปกติแล้วสูบบุหรี่ต้องงดสูบบุหรี่ และหลีกเลี่ยงผู้สูบบุหรี่ และมลภาวะทางอากาศ  และต้องหมั่นตรวจวัดความดันโลหิตเป็นระยะๆอย่างน้อยเดือนละ ครั้ง  
ควรรีบปรึกษาแพทย์ ในกรณีต่าง ๆ ดังนี้
ปวดศีรษะ ตาพร่ามัว  ไข้สูง  กลืนอาหารลำบาก หรือกลืนอาหารแล้วเกิดการสำลัก  ไอ เหนื่อยหอบ  ใจหวิว ใจสั่น
เจ็บหน้าอก  ท้องเสีย ถ่ายเหลว ท้องอืด หรือท้องผูกไม่ถ่ายเกิน วัน  แขน  ขาอ่อนแรง ลุกเดินลำบาก  เบื่ออาหาร น้ำหนักลด กิโลกรัมใน เดือน

ลักษณะเด่นของโรคหนังแข็ง นั้นอาการทางผิวหนังจะเริ่มจากผิวหนังที่บวมตึงหนา โดยเฉพาะที่ มือเท้า แขนขา และใบหน้า หลังจากเกิดอาการบวมได้ระยะหนึ่งอาจเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือนผู้ป่วยจะมีสีผิวที่เข้มขึ้น ผิวหนังหนาและแข็งมากขึ้นจนกำมือได้ไม่สนิทและเหยียดนิ้วมือไม่ออก ใบหน้าตึงแข็งจนริ้วรอยเหี่ยวย่นหายไป ผู้ป่วยจะมีอาการอ้าปากกว้างไม่ได้

บางคนมักเข้าใจผิดเมื่อเห็นโรคด่างขาวแล้วมักจะกลัวว่าเป็นโรคเรื้อน

เทคนิคการสร้างภูมิคุ้มกันโรคด่างขาวเป็นโรคที่ไม่อันตรายแต่หายยาก
บางคนมักเข้าใจผิดเมื่อเห็นโรคด่างขาวแล้วมักจะกลัวว่าเป็นโรคเรื้อนซึ่งเป็นโรคติดต่อมีอาการผิวด่างและเนื้อชา แต่รอยด่างในโรคเรื้อนจะไม่ขาวจัดเท่ากับรอยโรคด่างขาว เพราะในโรคเรื้อนมีการทำลายเม็ดสีบางส่วนเท่านั้น
โรคด่างขาวไม่ใช่โรคติดต่อ
โรคด่างขาวนั้นไม่ใช่โรคติดต่อดังนั้นจึงสบายใจได้  แต่อาจจะมีกรรมพันธุ์เข้ามาเกี่ยวข้องได้ และสามารถลุกลามได้ เช่น ขยายขนาดกว้างขึ้น หรือมีวงใหม่เกิดขึ้นในบริเวณข้างเคียง หรือเกิดขึ้นที่อื่นบริเวณใดก็ได้ ซึ่งบางคนเกิดรอยด่างขาวขึ้นบริเวณที่มีรอยขูดขีด หรือตามรอยบาดแผล  เป็นต้น              
การดูแลเมื่อเป็นโรคด่างขาว
ส่วนเรื่องของการดูแลรักษา มีทั้งยากินและทา ยาดังกล่าวมีชื่อว่า โซลาเรน ซึ่งใช้ได้ทั้งกินและทา  ถ้าหากการรักษาได้ผลจะมีจุดสีดำเกิดขึ้นบริเวณที่ด่าง มักเกิดบริเวณรอบ ๆ รูขุมขนก่อน สีดำที่เกิดใหม่อาจเกิดบริเวณขอบทำให้ขนาดของรอยด่างแคบลง ในรายที่การรักษาด้วยยาทาไม่ได้ผลหรือในรายที่เป็นมาก อาจจำเป็นต้องใช้ยากิน ระยะเวลาของการรักษาอาจกินเวลานานเป็นเดือนหรือเป็นปีแล้วแต่อาการของแต่ละคน
       
การรักษาจะได้ผลหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับว่ามีอาการมากหรือน้อย และขึ้นอยู่กับบริเวณที่เป็นโรคด่างขาวนั้นด้วย บางแห่งเป็นแล้วหายยาก เช่น บริเวณมือและเท้า และที่สำคัญ โรคนี้เป็นโรคที่หายยาก การรักษาไม่สามารถทำให้โรคหายได้ทุกราย จะหายได้ในบางรายเท่านั้น วิธีช่วยเมื่อการรักษาไม่ได้ผลคือการปกปิดรอยด่างด้วยเครื่องสำอางซึ่งจะแก้ปัญหาเรื่องความสวยงามได้

เชื่อว่าทุกคนต่างก็เคยผ่านประสบการณ์ขนคุดอักเสบมาแล้ว

เชื่อว่าทุกคนต่างก็เคยผ่านประสบการณ์ขนคุดอักเสบมาแล้ว และเจ้าขนคุดนี้เองที่สร้างความยากลำบากต่อการโกนหนวดและขนรักแร้เป็นอย่างยิ่ง แต่ทั้งนี้สามารถที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ได้
 ขนคุดนั้นถือได้ว่าเป็นปกติในหมู่คนที่มีสภาพเส้นขนหยิกหงิกงอ โดยจะเกิดขึ้นเมื่อมีเส้นขนที่เกิดขึ้นใหม่แล้วม้วนเข้าไปด้านในของผิวหนัง ซึ่งทำให้เกิดอาการช้ำเป็นรอยแดง เกิดการอักเสบ หรือมีรอยนูนคล้ายสิว นอกจากนี้แล้วยังอาจมีความเข้าใจผิดกันว่าหากโกนหนวดน้อยลงจะทำให้ปริมาณของขนคุดนี้น้อยลงไปด้วย ซึ่งความคิดดังกล่าวไม่ได้เป็นความจริง

ทั้งนี้แล้วมีวิธีจัดการกับขนคุดหรือรอยนูนนี้ได้เพียงแค่โกนหนวดเป็นประจำทุกวันหรือโกนขนรักแร้บ่อย ๆ ก็จะสามารถลดการเกิดใหม่ของเส้นขนที่จะม้วนงอกลับเข้าไปอยู่ในรูขุมขนได้ และเมื่อโกนหนวดทุกวัน นอกจากหนวดเคราก็จะสั้นแล้วโอกาสที่เส้นขนจะงอกกลับเข้าไปในผิวหนังก็เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากมาก

ขนคุดในทางการแพทย์นั้นจะจัดอยู่ในกลุ่มของรูขุมขนอักเสบ ซึ่งอาจเกิดจากการที่รูขุมขนติดเชื้อหรือจากการที่ปลายเส้นขนเหล่านั้นไปแทงรูขุมขน จนทำให้เกิดการอักเสบ หรือจากการที่มีการอุดตันของรูขุมขน ทำให้เส้นขนขดอยู่ในรูขุมขน ไม่สามารถจะโผล่ขึ้นมาได้ ดังนั้น ต้นเหตุของขนคุดจึงคล้ายๆ กับการที่มีเล็บขบนั่นเอง

Tuesday, November 15, 2016

ก่อนพบแพทย์เพื่อการรักษาเส้นเลือดขอดนั้นหลาย ๆ ท่านก็อยากรู้ถึงสาเหตุของเส้นเลือดขอด

ความรู้เรื่องการรักษาเส้นเลือดขอดและเส้นเลือดฝอยที่เท้า

ก่อนพบแพทย์เพื่อการรักษาเส้นเลือดขอดนั้นหลาย ๆ ท่านก็อยากรู้ถึงสาเหตุของเส้นเลือดขอดและเส้นเลือดฝอยซึ่งมีความผิดปกติของลิ้นในหลอดเลือดดำเป็นกรรมพันธุ์มีการอักเสบของหลอดเลือดดำ thrombophlebitis ปัจจัยส่งเสริมเช่น การยืน การนั่งนาน ๆ คนท้องอายุมากมีการหย่อนของลิ้นหลอดเลือดการผ่าตัดโดยเฉพาะบริเวณสะโพกซึ่งจะต้องได้รับการรักษาเส้นเลือดขอด

ปัจจัยที่ทำให้เกิดเส้นเลือดขอดประกอบด้วยอายุมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่นวัยรุ่น การตั้งครรภ์ หรือวัยทอง แม้กระทั่งการรับประทานยาคุมกำเนิดก็จะส่งเสริมทำให้เกิดเส้นเลือดขอด
  

อาการของเส้นเลือดขอดที่เท้าจะมีอาการปวดเท้าหนัก ๆ ตึง ๆ  อาจจะเกิดตะคริวของกล้ามเนื้อเห็นเส้นเลือดดำพองบวมหลังเท้าเลือดไปเลี้ยงผิวหนังน้อยลง ผิวหนังบริเวณข้อเท้าจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ผิวบาง แห้งและค่อนข้างแข็ง
หากมีการคั่งของน้ำมาก ๆ อาจจะเกิดการอักเสบของผิวหนังที่เรียกว่า stasis eczema ซึ่งจะมีอาการคัน หรืออาจจะเกิดแผลเลือดออกจากเส้นเลือดขอดการนั่งหรือยืนนาน ๆ จะทำให้อาการดังกล่าวเป็นมากขึ้น

อาการหนักแค่ไหนจึงจะต้องไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาเส้นเลือดขอด
เมื่อเกิดอาการเส้นเลือดขอดบวมขึ้น แดง ร้อนและกดเจ็บมีแผลหรือผื่นบริเวณข้อเท้าผิวหนังบริเวณเท้า หน้าแข้งและข้อเท้าหนาตัวและมีสีคล้ำมีเลือดออกจากเส้นเลือดขอดอาการของเส้นเลือดขอดรบกวนคุณภาพชีวิตภาพที่ปรากฏหน้าเกลียด

ผู้ป่วยเส้นเลือดขอดมักจะมีอาการปวดน่อง บริเวณหลังเท้าบวม  สีผิวเปลี่ยนแปลง และอาจจะมีแผลที่เท้า เส้นเลือดขอดมักจะพบในผู้ป่วยที่ตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ อ้วน หรือผู้ที่ต้องยืนนานๆ และพบมากในผู้ที่มีประคนในครอบครัวเป็นโรคนี้ ซึ่งการรักษาเส้นเลือดขอดนั้นก่อนทำการรักษาควรปรึกษาแพทย์

รอยสักคิ้วและขอบตาถาวรที่ไม่สวยดั่งใจนั้นในปัจจุบันสามารถลบรอยสักออกได้

ความรู้เรื่องการลบรอยสักคิ้วและรอยขอบตาถาวร

ปัจจุบันการสักเป็นที่นิยมทำกันมาก โดยเฉพาะการนิยมสักคิ้ว สักขอบตาถาวร คนที่คิ้วบางก็สักคิ้วเพื่อให้ดูหนาสวยงาม หรือคนตาเล็กก็สักขอบตาเพื่อที่จะทำให้ดูตาโตขึ้นซึ่งบางคนสักแล้วก็ได้สวยงามได้ดั่งใจ ในขณะที่บางคนสักแล้วไม่สวยดังที่ได้คาดหวังเอาไว้จึงอยากที่จะลบรอยสักนั้นออก

 ทั้งนี้การสักที่ได้รูปทรงสวยงามนั้นก็ขึ้นกับประสบการณ์ของคนสักด้วยเช่นกัน ดังนั้น การสักคิ้วหรือขอบตาถาวรก็ควรต้องเลือกผู้สักที่มีประสบการณ์ และนอกจากนี้การสักก็ต้องคำนึงถึงความสะอาดปลอดภัยของอุปกรณ์ที่ใช้ในการสักด้วย
เพราะการสักที่ไม่สะอาดนำไปสู่การติดเชื้อต่าง ๆ ได้ เช่น การติดเชื้อเอดส์หรือการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ เป็นต้น 

รอยสักคิ้วและขอบตาถาวรที่ไม่สวยดั่งใจนั้นในปัจจุบันสามารถลบรอยสักออกได้ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ยุ่งยากอีกต่อไปแต่ทั้งนี้ต้องเป็นการลบรอยสักที่ถูกวิธีซึ่งบางคนลบออกโดยใช้น้ำยาหรือสารเคมีลบ หรือบางคนเอามีดกรีด ๆ เพื่อเอาสีรอยสักออกซึ่งการทำเช่นนี้จะทำให้เกิดรอยแผลเป็นถาวรได้ 

บางคนลบรอยสักคิ้วเดิมแล้วสักอันใหม่ขึ้นมาแทน แต่ก็พบว่ารอยสักคิ้วอันเก่าที่ลบออกนั้นเหลือร่องรอยเป็นรอยแผลเป็น ก็จะทำให้เห็นรอยสักคิ้ว เส้น ซึ่งทำให้ดูไม่สวยงาม เมื่อเกิดรอยแผลเป็นที่คิ้วแล้วมักเป็นถาวรไม่สามารถแก้ไขได้ การลบรอยสักคิ้วและขอบตาถาวรควรปรึกษาแพทย์และทำการลบโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งแพทย์จะใช้เลเซอร์ชนิดที่กำจัดเฉพาะเม็ดสีของรอยสักเพียงอย่างเดียว จึงไม่ทำให้เกิดรอยแผลเป็น

การมีใบหน้าเนียนใสไร้รอยแผลเป็น ย่อมเป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา

เผยเคล็ดลับข้อควรปฏิบัติหลังจากรักษารอยแผลเป็นบนใบหน้า
การมีใบหน้าเนียนใสไร้รอยแผลเป็น  ย่อมเป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา การที่ผิวพรรณบนใบหน้าปราศจากผิวขรุขระ แลดูไม่เรียบเนียนนี้ในบางคนอาจมีรอยแผลเป็นบนใบหน้าเนื่องจากการเกิดสิวขั้นรุนแรงที่มักมีการแคะ แกะ เกา หรือบีบสิวซึ่งทำให้ผิวเกิดช้ำ และอักเสบจนเป็นแผลได้ รวมถึงบางคนเกิดจากโรคอีสุกอีใสที่ทิ้งร่องรอยไว้หลังจากหายแล้วหรือแม้แต่การเกิดอุบัติเหตุที่ทำให้เกิดแผลบนใบหน้าหรือการเย็บเนื้อที่หน้าก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดรอยแผลเป็น
         
ข้อควรปฏิบัติหลังจากรักษารอยแผลเป็นบนใบหน้า
ประการแรกควรพยายามหลีกเลี่ยงแสงแดงจัด ๆ เนื่องจากในระยะนี้ผิวจะมีความไวต่อแสงแดดมาก ในทางที่ดีควรทาครีมกันแดดเป็นประจำตามคำแนะนำของแพทย์

ประการต่อมาคือก่อนใช้ยาหรือเครื่องสำอางบางประเภทควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้ง ไม่ควรใช้เองโดยพลการ และที่สำคัญต้องพบแพทย์ตามนัดเพื่อที่จะได้ทำการรักษาอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมออีกทั้งต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดเพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ดีมีประสิทธิภาพสูงสุด

ในการลบรอยแผลเป็นรอยขรุขระบนใบหน้าอาจเกิดผลข้างเคียงขึ้นได้บ้าง เนื่องจากตัวยาที่ใช้บางชนิดนั้นจะทำให้เกิดความรู้สึกระคายเคืองต่อผิว หรือในบางทีก็มีผิวลอกเป็นขุยบ้างเล็กน้อย หรือบ้างก็ผิวแดงง่ายขึ้นเวลาถูกแดดจัด ๆ  ซึ่งแพทย์จะให้คำแนะนำในการดูแลหรือให้ยาเพื่อลดอาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้

อย่างไรก็ดีข้อควรปฏิบัติหลังจากรักษารอยแผลเป็นบนใบหน้า ด้วยวิธีต่าง ๆ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้พิจารณาสภาพผิวหน้าและความรุนแรงของแผลเป็นของแต่ละคนเหมาะสมที่จะใช้วิธีไหน ที่จะสามารถช่วยให้รอยแผลตื้นขึ้นและดีขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แม้ว่าในปัจจุบันยังไม่ทราบแน่ชัดว่าโรคสะเก็ดเงินเกิดจากอะไร

ความรู้เรื่องโรคและอาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้จากการเป็นโรคสะเก็ดเงิน

แม้ว่าในปัจจุบันยังไม่ทราบแน่ชัดว่าโรคสะเก็ดเงินเกิดจากอะไร โดยมีความเข้าใจว่าเกิดจากสาเหตุร่วมกันหลายสาเหตุทั้งปัจจัยทั้งจากภายนอกและภายในร่างกายร่วมกันกระตุ้นให้อาการของโรคนี้แสดงออกมา และอีกสาเหตุหนึ่งสันนิษฐานว่าเกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย หรือโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง  และการที่เป็นโรคสะเก็ดเงินนี้ก็อาจทำให้เกิดโรคและอาการข้างเคียงต่าง ๆ  ได้  เช่น

โรคข้ออักเสบ
ในผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงิน  มักจะมีอัตราการเกิดโรคข้อและเอ็นอักเสบร่วมด้วยโดยที่ผู้ป่วยอาจมีอาการของข้ออักเสบนำมาก่อน เกิดขึ้นพร้อม ๆ กับผื่น หรือตามหลังผื่นก็ได้  ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วผู้ป่วยที่มีอาการข้ออักเสบมักมีอาการข้ออักเสบเกิดขึ้นนำมาก่อนการเกิดผื่น บริเวณที่เสี่ยงต่อการอักเสบได้แก่  บริเวณ  ข้อศอก หัวเข่า ข้อมือ ข้อนิ้วมือในส่วนของปลายนิ้วมือ  ข้อหัวไหล่ ข้อสะโพก ข้อกระดูกต้นคอ  และกระดูกสันหลัง เป็นต้น โดยจะมีอาการบวมแดงร้อน

อาการหนาว อ่อนเพลียเรื้อรัง
ในผู้ที่เป็นโรคสะเก็ดเงินที่มีอาการผื่นรุนแรง เช่นเป็นผื่นตามตัวทั่วทั้งตัว มีอาการอักเสบ ผื่นขึ้นแดง และผิวที่ลอกตลอดเวลา จะทำให้ผู้ป่วยสูญเสียสารโปรตีนไปกับผิวที่ลอกออกเป็นจำนวนมาก และยังสูญเสียน้ำออกทางผิวหนังมากกว่าที่ควร ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงจึงมักรู้สึกหนาวจากการเสียความร้อนทางผิวหนังและมีอาการอ่อนเพลียเรื้อรังจากการสูญเสียโปรตีน

นอกจากนี้ผู้ที่เป็นโรคสะเก็ดเงินบางรายที่มีอาการรุนแรงอาจทำให้มีอาการไข้ขึ้น ปวดเมื่อยตามเนื้อตัว และเกิดตุ่มหนองที่ผุพองขึ้นตามร่างกายได้


หากท่านเป็นโรคหูดหงอนไก่และเข้ารับการรักษาโรคจากทางแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

กรณีไหนที่ท่านควรไปพบแพทย์ก่อนวันนัด
          หากท่านเป็นโรคหูดหงอนไก่และเข้ารับการรักษาโรคจากทางแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งผู้ป่วยแต่ละคนจะได้รับการรักษาในวิธีที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความหนักเบาของโรคหูดหงอนไก่ ที่เกิดขึ้นกับแต่ละบุคคลครับ  บางรายเป็นโรคชนิดนี้เบา วิธีการรักษาจึงค่อนข้างไม่สลับซับซ้อน อาจเพียงแค่ทายาในบริเวณที่เกิดโรค และหมั่นดูแลตัวเองให้ดีตามคำแนะนำของแพทย์ แต่สำหรับบางคนเป็นโรคชนิดนี้หนัก มีตุ่มขนาดใหญ่เกิดขึ้นในบริเวณที่เกิดโรค หรือโรคแพร่กระจายไปยังอวัยวะต่างๆของร่างกายเป็นจำนวนมาก วิธีการรักษาของคนกลุ่มนี้อาจมีความยากขึ้นมาหน่อย คือการใช้เทคโนโลยีในการรักษาที่ล้ำกว่า เช่น รักษาด้วยการจี้ไฟฟ้า ด้วยการจี้ความเย็น หรือการตัดหูดหงอนไก่ออกด้วยการใช้มีดผ่าตัด นั่นเอง
           ซึ่งไม่ว่าผู้ป่วยเหล่านั้นจะเข้ารับการรักษาโรคหูดหงอนไก่ ด้วยวิธีใดก็ตามที่ได้กล่าวไปข้างต้น ทุกรูปแบบการรักษาจะไม่มีทางทำให้โรคนี้ หายขาดจากการรักษาไปเพียงแค่เข้ารับการรักษาครั้งเดียวอย่างแน่นอนครับ กล่าวคือ เมื่อท่านเข้ารับการรักษาตามอาการแล้ว แพทย์จะนัดท่านมาดูอาการและรับการรักษาอยู่เรื่อยๆ จนกว่าเขาจะลงความเห็นว่าผู้ป่วยได้หายจากโรคหูดหงอนไก่แล้วจริงๆ จึงจะเลิกนัดมาตรวจโรค
            ดังกล่าวนั้นหลายท่านอาจเกิดคำถามว่า ถ้าตนเป็นโรคหูดหงอนไก่ และเข้ารับการรักษากับทางแพทย์ มีกรณีใดบ้างที่เราควรขอเข้าพบแพทย์ก่อนวันนัดแน่นอนที่สุดครับ การมาพบแพทย์ก่อนวันนัดย่อมเกิดขึ้นได้ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการโรครุนแรงกว่าปกติ จนถึงขั้นไม่ปลอดภัยสำหรับโรคหูดหงอนไก่นั่น เมื่อท่านสังเกตแล้วเห็นว่าบริเวณรอยโรคมีอาการผิดปกติ เช่นตุ่มบริเวณนั้นมีสีแดงและเกิดอาการระคายเคียง เจ็บแสบเป็นบริเวณกว้าง ซึ่งต่างไปจากอาการที่เคยเป็นในยามปกติ หากท่านสังเกตเห็นลักษณะดังกล่าว ก็สามารถเข้าพบแพทย์ก่อนวันนัดได้แล้วครับ

ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว แม้โรคด่างขาวจะมีวิธีการรักษาที่ค่อนข้างหลากหลายอยู่พอสมควร

การดูแลตัวเองสำหรับผู้เป็นโรคด่างขาว
                      ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว แม้โรคด่างขาวจะมีวิธีการรักษาที่ค่อนข้างหลากหลายอยู่พอสมควร แต่ท่านรู้หรือไม่ครับ สำหรับผู้ป่วยเป็นโรคด่างขาวบางคนนั้น ไม่จำเป็นต้องรักษา ก็สามารถดำรงชีวิตในสังคมได้เป็นปกติ ทั้งนี้เพราะโรคชนิดนี้มิได้ส่งผลร้ายแรงต่อสุขภาพของผู้ติดโรคแต่อย่างใด  ซึ่งคนที่เป็นโรคชนิดนี้และอาจไม่ต้องรับการรักษาคือผู้ที่มีผิวขาวนั่นเองครับทั้งนี้เพราะสีผิวที่ขาวกับรอยด่างบนผิวหนังจะมีสีที่ใกล้เคียงกัน  ดังนั้นเพียงผู้ป่วยหลีกเลี่ยงแสงแดดที่จะทำให้สีผิวปกติหมองคล้ำ หรือใช้ครีมกันแดดชนิดที่มีSPF30 หรือมากกว่านั้น เพื่อป้องกันผิวปกติของตนไม่ให้มีสีเข้มไปกว่าเดิม เพียงเท่านี้รอยด่างบนผิวหนังของท่านก็จะมีลักษณะกลมกลืนกันผิวที่แท้จริงจนไม่สามารถแยกออกได้ว่าเป็นโรคด่างขาว และนอกจากวิธีการป้องกันดังกล่าวแล้ว ท่านอาจใช้เครื่องสำอางในการปกปิดรอยด่างขาวบางส่วน ที่มีสีขาวค่อนข้างเข้มได้อีกวิธีหนึ่งครับ
                    แต่อย่างไรก็ดี ผู้ที่เป็นโรคด่างขาวก็ต้องมีวิธีการดูแลตัวเองที่ถูกต้องด้วยนะครับแม้โรคชนิดนี้จะไม่ส่งผลร้ายแรงต่อชีวิตของผู้ป่วยก็ตาม แต่หากท่านปล่อยปละละเลยไม่ดูแลตัวเองจนโรคลุกลามไปทั่วทั้งตัว มันจะส่งผลต่อความมั่นใจของตัวท่านเอง และจะมีผลในการดำรงชีวิตอย่างแน่นอนครับ….และวิธีการดูแลตัวเองที่ถูกต้องของผู้ป่วยโรคนี้ คือ ท่านต้องระวังตัวเองมิให้เกิดรอยขูดขีด หรือรอยกระแทกบนผิวหนัง เพราะแผลเหล่านั้นอาจทำให้มีรอยด่างขาวเกิดใหม่ หรือแพร่กระจายไปได้ครับ และอีกประการหนึ่งคือ การระวังมิให้รอยด่างขาวบนผิวหนังถูกแสงแดดจัด ทั้งนี้เพราะบริเวณรอยเหล่านั้นไม่มีเม็ดสีนั่นเอง หากได้รับแสงแดดมากๆอาจเกิดเป็นโรคมะเร็งผิวหนังได้ครับ

ท่านผู้อ่านหลายคนคงทราบถึงวิธีการรักษาโรคขนคุดกันมาบ้างแล้วใช่ไหมครับ

การป้องกันโรคขนคุด
               ท่านผู้อ่านหลายคนคงทราบถึงวิธีการรักษาโรคขนคุดกันมาบ้างแล้วใช่ไหมครับ การรักษาโรคนี้มีวิธีการที่แตกต่างกันไปตามความหนักเบาของผู้ที่เป็นโรคครับ สำหรับผู้ที่เป็นโรคขนคุดแต่อาการไม่หนักเท่าใดนัก วิธีการรักษาจะเน้นไปในเรื่องของการดูแลผิว เสียเป็นส่วนใหญ่ โดยการทาผลิตภัณฑ์ต่างๆที่จะสามารถสร้างความชุ่มชื้นให้แก่ผิว เพื่อป้องกันอาการผิวแห้งซึ่งจะเป็นบ่อเกิดของโรคขนคุด  และสำหรับผู้ที่เป็นโรคนี้แต่มีอาการหนักนั้น การรักษาก็จะแตกต่างออกไปจากจำพวกแรกครับ นอกจากจะต้องดูแลความชุ่มชื่นของผิวแล้ว คนกลุ่มนี้ยังมีวิธีเฉพาะขึ้นไปอีก และหนึ่งในวิธีเฉพาะที่น่าสนใจคือ การใช้เลเซอร์กำจัดขน ซึ่งผู้ที่ต้องการรักษาโดยวิธีนี้จำเป็นต้องรักษากับแพทย์ผิวหนังโดยตรง เป็นการรักษาโดยการกำจัดส่วนที่เป็นต้นตอของปัญหา นั่นคือขนคุดนั่นเองครับโดยการส่งแสงเลเซอร์ไปทำลายขนคุดที่เจริญเติบโตเต็มที่แล้ว ซึ่งการรักษาวิธีนี้จะใช้เวลาในการรักษาประมาณ 5-8 ครั้งในทุกๆ 4-6 สัปดาห์ครับและค่าใช้จ่ายของมันค่อนข้างแพงพอสมควร ซึ่งถือเป็นทางเลือกหนึ่งของผู้ที่ประสบปัญหากับโรคนี้เลยก็ว่าได้
           เมื่อพูดถึงวิธีการรักษาแล้ว หลายๆคนอาจมีคำถามถึงวิธีการป้องกันโรคขนคุด ว่ามันมีวิธีการอย่างไรที่จะหลีกเลี่ยงเสียจากโรคชนิดนี้ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจที่มาของโรคชนิดนี้ก่อนครับ มันเป็นโรคที่เกิดขึ้นโดยมีพื้นฐานมาจากพันธุกรรม ดังนั้นการป้องกันโรคชนิดนี้จึงเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน เพราะอย่างไรเสียเราก็ไม่สามารถแก้ไขส่วนที่เรียกว่าพันธุกรรมในตัวเราได้จริงไหมครับ สิ่งที่พอจะทำได้มีแต่เพียงการบรรเทาและลดอาการเสี่ยงในการเกิดโรคชนิดนี้ โดยการรักษาผิวของเราให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอนั่นเองครับ

ภาวะผมหงอกก่อนวัยยังไม่มีผลการรับรองโดยแพทย์แผนปัจจุบันว่าเกิดจากสาเหตุอะไร

รู้ไว้ใช่ว่า วิธีการป้องกันและรักษาผมหงอกก่อนวัย
            ภาวะผมหงอกก่อนวัยยังไม่มีผลการรับรองโดยแพทย์แผนปัจจุบันว่าเกิดจากสาเหตุอะไร โดยทั่วไปหากไม่เกิดจากภาวะโรคประจำตัว หรือพันธุกรรม แพทย์จะแนะนำให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือใช้สิ่งที่กระตุ้นให้ผมหงอก หรือหากเกิดจากการขาดสารอาหารก็ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อเส้นผม หรือจะเสริมด้วยวิตามินที่จำเป็น เช่น วิตามินเอ บี ซี ทองแดง สังกะสี ธาตุเหล็ก หรือจะใช้สมุนไพรพื้นบ้าน เช่น ใบบัวบก งา ว่านหางจระเข้ ดอกอัญชัน
            นอกจากนี้ยังมีการรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเส้นผมและหนังศีรษะโดยเฉพาะ โดยใช้ ไลโบโซม(Liposomes) ซึ่งเป็นไขมันที่มีขนาดอนุภาคเล็ก ใช้ทาบริเวณหนังศีรษะพร้อมอาหารผม ไลโบโซมจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการซึมผ่านของสารเข้าสู่ชั้นผิวหนัง เมื่อให้อาหารผมเข้าไป ก็จะทำให้ได้รับสารอาหารได้ดีขึ้น หรือจะแก้ปัญหาโดยการถอน แต่จะไม่ทำให้หงอกหายได้ถาวร เพราะไม่นานก็ขึ้นมาใหม่ ส่วนวิธีที่ได้ผลชัดเจนและสะดวกคือ การย้อม แต่อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น การแพ้หรือสะสมสารเคมีของร่างกาย จึงต้องเลือกยาย้อมผมที่มีคุณภาพก่อนตัดสินใจซื้อ
ส่วนรักป้องกันผมหงอกก่อนวัยที่ดีที่สุดนั้น ควรพักผ่อนให้เพียงพอ อย่าเครียด ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง และมีภูมิคุ้มกันโรค รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อเส้นผม งดสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ที่สำคัญต้องเลือกแชมพูและครีมนวดผม รวมทั้งผลิตภัณฑ์แต่งผมที่ไม่แพ้ อ่อนโยนและเหมาะกับสภาพเส้นผม และหนังศีรษะ โดยเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพไม่เชื่อตามโฆษณาที่เกินจริงของเจ้าของผลิตภัณฑ์