Wednesday, March 16, 2016

ดังที่ได้กล่าวแล้ว โรคหูดหงอนไก่ ถือเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ชนิดหนึ่ง

กลุ่มคนที่มีความเสี่ยงต่อการติดโรคหูดหงอนไก่
             ดังที่ได้กล่าวแล้ว โรคหูดหงอนไก่ ถือเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ชนิดหนึ่งที่เกิดจากเชื้อไวรัส HPVครับ ซึ่งโรคชนิดนี้จะสามารถเข้าไปสู่ร่างกายมนุษย์ได้ในหลายรูปแบบด้วยกัน และรูปแบบหนึ่งที่มักเกิดขึ้นคือ เกิดจากการที่มนุษย์ได้รับเชื้อไวรัส HPV ผ่านทางผิวหนัง เชื้อไวรัส HPV ก็จะเข้าสู่ร่างกายโดยผ่านทางรอยถลอกต่างๆบนผิวหนังของเรานั่นเองครับ ข้อสังเกตของโรคชนิดนี้คือ มันจะไม่ปรากฏอาการในเวลาอันสั้น เพราะเมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วเชื้อ HPV ที่เป็นต้นตอของโรคชนิดนี้จะใช้เวลาในระยะฟักตัวก่อนปรากฏอาการ นานพอสมควรเลยทีเดียว ซึ่งบางรายใช้เวลาหลายเดือน หรือหลายปีก็มีครับ
            หลังจากทำความรู้จักกับโรคหูดหงอนไก่กันพอสมควรแล้ว เรามาดูกันดีกว่าครับว่าโรคชนิดนี้มักเกิดกับคนที่มีพฤติกรรมแบบใด ซึ่งข้อมูลนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญประการหนึ่งที่จะนำพาให้ท่านผู้อ่านห่างไกลจากโรคชนิดนี้ได้นั่นเองครับ
กลุ่มแรก อย่างที่ได้ทราบกันไปแล้ว โรคหูดหงอนไก่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ดังนั้นผู้ที่มีความเสี่ยงก็คือกลุ่มที่มักมีกิจกรรมทางเพศบ่อยนั่นเองครับ แต่ความเสี่ยงเหล่านี้สามารถลดลงได้หากท่านสวมถุงยางอนามัยครับ คนที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่สวมถุงยางอนามัยจะมีความเสี่ยงสูงกว่าที่จะติดเชื้อไวรัส HPV มาจากคู่นอนนั่นเอง
กลุ่มสอง คือกลุ่มคนที่มักเปลี่ยนคู่นอนเป็นประจำ ทั้งนี้เพราะการเปลี่ยนคู่นอนเป็นประจำนั้นย่อมเป็นการยากที่เราจะรู้ได้ว่าคู่นอนของเราผ่านใครมาบ้างแล้วเขาอาจจะได้รับเชื้อไวรัส HPV มาจากที่ใดที่หนึ่ง จนสุดท้ายเชื้อนั้นตกมายังเราโดยเฉพาะเมื่อท่านไม่ป้องกันในขณะร่วมเพศ ก็จะยิ่งมีโอกาสติดเชื้อสูงยิ่งขึ้นไปอีกครับ

ดังที่ได้เกริ่นนำไปแล้วเกี่ยวกับโรคด่างขาวในบทก่อนนั้น ท่านผู้อ่านหลายท่านคงพอทราบกันมาบ้างแล้วว่าโรคด่างขาว

สาเหตุของโรคด่างขาว
              ดังที่ได้เกริ่นนำไปแล้วเกี่ยวกับโรคด่างขาวในบทก่อนนั้น ท่านผู้อ่านหลายท่านคงพอทราบกันมาบ้างแล้วว่าโรคด่างขาวเป็นโรคชนิดหนึ่งที่ทางการแพทย์ยังไม่สามารถระบุสาเหตุของการเกิดโรคชนิดนี้ได้อย่างชัดเจน และยังคงมีหลายทฤษฏีออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับการเกิดโรค ว่าเหตุใดจึงทำให้เกิดการทำลายเซลล์เม็ดสีในผิวหนัง
แต่ละทฤษฎีที่ปรากฏออกมาก็ให้ความเห็นที่แตกต่างกันออกไปครับ บางทฤษฏีเห็นว่าความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายทำให้เกิดการทำลายเซลล์เม็ดสีซึ่งก่อให้เกิดโรคด่างขาว, บางทฤษฏีเห็นว่าเกิดจากกระบวนการสร้างสีที่มีการสร้างสารเป็นพิษต่อเซลล์เม็ดสีทำให้เกิดโรคด่างขาวบริเวณผิวหนัง, บางทฤษฏีเห็นต่างออกไปว่ามันเกิดจากกลไกของการเกิดอนุมูลอิสระ, จากเซลล์เม็ดสีที่มีภาวะไม่ปกติ และ บางท่านเห็นว่ามันเกิดจากภาวะบางอย่างทางระบบประสาทซึ่งส่งผลให้มีการทำลายเซลล์เม็ดสีบนผิวหนังนั้นเองครับ
                นอกจากข้อสันนิษฐานที่ได้กล่าวไปแล้ว โรคด่างขาวยังสามารถเกิดขึ้นจากพันธุกรรมได้อีกด้วยครับ โดยพบว่าโรคด่างขาวที่เกิดโดยมีเรื่องพันธุกรรมมาเกี่ยวข้องนี้ มีถึง 30% ของประชากรโลกทั้งหมดที่เป็นโรคชนิดนี้เลยทีเดียว (ประชากรโลกเป็นโรคชนิดนี้เฉลี่ย 1-2%) โดยเรื่องของพันธุกรรมกับการเกิดโรคชนิดนี้ จะพบในหญิงมากกว่าผู้ชาย ทั้งนี้มิใช่ว่าผู้หญิงจะมีความเสี่ยงมากกว่าแต่อย่างใด แต่อาจเป็นเพราะผู้หญิงที่เป็นโรคชนิดนี้จะมารับการรักษาจากทางแพทย์มากว่าเพศชายที่แม้เป็นโรคก็ไม่มารักษาครับ ดังนั้นจากข้อมูลทั่วโลกจึงพบในเพศหญิงมากกว่านัน่เอง

สำหรับสาเหตุของผิวแตกลายนั้น มีด้วยกันหลายสาเหตุเลยทีเดียว

สาเหตุของผิวแตกลาย
                         สำหรับสาเหตุของผิวแตกลายนั้น มีด้วยกันหลายสาเหตุเลยทีเดียว ซึ่งสาเหตุต่างๆดังที่จะได้กล่าวต่อไปทั้งหมด ล้วนส่งผลให้ผิวหนังชั้นกลางเกิดการยืดตัว ดันผิวหนังด้านบนให้มีการขยายตัวไปด้วย และผิวหนังด้านบนที่เกิดการขยายตัวนั้นมีการขยายจนเกินความสามารถของมัน เป็นผลให้เกิดผิวแตกลายตามมานั่นเองครับ โดยสาเหตุของการแตกลายบนผิวหนังได้แก่
1.ตั้งครรภ์ เนื่องจากการตั้งครรภ์ทำให้ผิวหนังบริเวณหน้าท้องมีการขยายใหญ่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งการขยายของมันก็ใช้เวลานานพอสมควรครับ จึงทำให้ผิวหนังด้านนอกเกิดการขยายตัวตาม ดังนั้นหลังคลอดเมื่อเด็กออกจากครรภ์และขนาดของท้องลดลงอย่างรวดเร็ว คนตั้งครรภ์ส่วนใหญ่จึงประสบปัญหาผิวแตกลายกันเป็นจำนวนมาก
2.ขาดวิตามินอี หรือวิตามินซี การไม่ได้รับวิตามันอี หรือซีอย่างเหมาะสม ก็ถือเป็นสาเหตุหนึ่งของผิวแตกลายได้เช่นกันครับ
3.โรคอ้วน คนส่วนใหญ่ที่ประสบปัญหาผิวแตกลาย มักมีสาเหตุมาจากโรคอ้วนนี่แหละครับ สำหรับคนที่มีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ผิวหนังชั้นกลางเกิดการขยายตัวและดันผิวหนังชั้นนอกให้ขยายตัวด้วย ซึ่งคนที่มีขนาดตัวใหญ่ขึ้นกว่าปกติมาก จะทำให้ผิวหนังขยายมากตามไปด้วย และผิวหนังเหล่านั้นจบด้วยการแตกตัวนั่นเองครับ
4.อาการเจ็บป่วยต่างๆ ทั้งนี้เพราะหากผู้ใดมีอาการเจ็บป่วยบ่อยๆ สาร Glucocorticoids จะถูกหลั่งออกมาจากต่อมหมวกไต ซึ่งสารชนิดนี้มีหน้าที่สำคัญในการรักษาอาการผิดปกติของร่างกาย เช่น อาการอักเสบ หรือบรรเทาอาการเจ็บต่างๆ แต่อย่างไรก็ดีเจ้าสารตัวนี้ก็มีข้อเสียเช่นกันครับ เพราะหากมันหลั่งออกมามากๆ จะทำให้ผิวหนังผลิตคอลลาเจนได้ยากตามไปด้วย ซึ่งจะส่งผลให้ผิวหนังแท้ของคนเรายืดหยุ่นไม่ดีเท่าที่ควร เมื่อเกิดการขยายตัวของผิวหนังในช่วงเจ็บป่วย จึงทำให้เกิดผิวแตกลายในที่สุด

โรค“ขนคุด”เป็นโรคชนิดหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับขนและผิวหนังของมนุษย์ ซึ่งเกิดจากสาเหตุใหญ่สองประการ ประการแรก คือ

ใครมีเสี่ยงที่จะเกิดโรคขนคุด
            โรคขนคุดเป็นโรคชนิดหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับขนและผิวหนังของมนุษย์ ซึ่งเกิดจากสาเหตุใหญ่สองประการ ประการแรก คือ ขนคุดที่เกิดหลังการโกนขน โดยขนที่งอกมาใหม่นั้นมีทิศทางการงอกที่ผิดรูป ไม่ออกตามรูขุมขนในแบบปกติ แต่กลับงอกไปชนบริเวณรูขุมขนด้านใน ทำให้เกิดอาการระคายเคืองต่อผิวหนัง มีอาการคันและเมื่อท่านเกามากๆผิวหนังจะอักเสบในที่สุดครับ ส่วนประการที่สอง คือ ขนคุดที่เกิดหลังจากขนของท่านงอกออกมาตามรูขุมขนปกติแล้ว แต่ภายหลังงอกจนยาวได้ในระดับหนึ่ง มันกลับงอตัวโค้งกลับเข้าไปชนผิวหนัง ทำให้เกิดอาการคัน และระคายเคืองจนผิวหนังอักเสบในที่สุดครับ
          ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว โรคขนคุดถือเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับขนและผิวหนังของมนุษย์ ดังนั้นมันจึงสามารถเกิดขึ้นได้กับมนุษย์ในทุกเพสทุกวัย ตั้งแต่วัยเด็ก วัยรุ่น จนกระทั่งวัยชราครับ หากเกิดขึ้นในวัยเด็ก มักเกิดกับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า ปีและสำหรับบางคนจะค่อยๆหายไปในช่วงวัยรุ่น แต่หากโรคนี้เกิดกับวัยรุ่น เมื่อพวกเขามีอายุมากขึ้นมันจะค่อยหายไป แต่บางคนก็ยังเป็นต่อ ซึ่งการรักษาที่ถูกวิธีคือการพบแพทย์ครับ และผู้ที่มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคขนคุด มากกว่าคนกลุ่มอื่น คือ คนที่มีผิวหนังแห้ง ซึ่งเสี่ยงกว่าคนผิวมัน โดยอาการของโรคขนคุดจะปรากฏชัดเจนและเป็นหนักในช่วงฤดูที่มีอากาศหนาวเย็นและอากาศแห้ง
http://www.skin-pro.biz/

สำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งท้องหรือคลอดน้องออกมแล้ว ต้องบอกว่า ปัญหาเรื่องผมหงอก อาจจะเกิดขึ้นกับคุณแม่ได้

หลังคลอดบุตร ก็มีโอกาสผมหงอกได้
สำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งท้องหรือคลอดน้องออกมแล้ว ต้องบอกว่า ปัญหาเรื่องผมหงอก อาจจะเกิดขึ้นกับคุณแม่ได้ เพราะว่าหลังคลอดบุตรได้ไม่นานนัก จะมีอาการ ผมร่วงกันก่อน แล้วก็อาจจะมีอาการผมหงอกได้เช่นกัน  เรื่องแบบนี้ไม่ต้องตกใจมากนัก เพราะว่า ฮอร์โมนอาจจะกำลังเปลี่ยนแปลงก็เป็นได้
เรื่องผมหงอกของคุณแม่นั้น อาจจะเป็นแค่เพียงระยะไม่นานนัก อาจะประมาณ 3-4 เดือน ในช่วงนี้ ก็ต้องบำรุงร่างกายกันหน่อย เพราะว่าช่วงก่อนหน้านี้ ร่างกายจะต้องทำการเลี้ยงทั้งตัวอ่อน และ เลี้ยงคุณแม่ จึงต้องทำการแบ่งสารอาหารทุกอย่างให้พอเหมาะ อย่างกับเส้นผมก็ต้องการอาหารเช่นกัน อย่างกับที่หลาย ๆ คนได้บอกไว้ว่า  เวลาที่เราตั้งท้อง ควรจะตัดผมสั้น จะเป็นการดีที่สุด เพราะสารอาหารจะได้ไม่ต้องไปเลี้ยงผมมาก ให้มาเลี้ยงที่คุณลูกแทนจะดีที่สุด  เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณแม่ควรจะทำอย่างยิ่ง เพราะนอกจากสารอาหารจะไปเลี้ยงลูกแล้ว ถ้าสารอาหารไม่เพียงพอ ผมคุณแม่ก็จะเสีย และ หงอกได้เช่นกัน ตัดผมสั้นจึงเป็นการเหมาะสมที่สุด
แต่พอระยะเวลาผ่านไปสักพัก เมื่อคุณแม่ได้รับสารอาหารทดแทนที่ ได้สูญเสียไปแล้ว ไม่นานนักผมที่หงอกก็เริ่มมีสีเทาล่ำขึ้นมาเองไม่ต้องกังวลมากนัก มันเป็นเรื่องปกติ ที่อาจจะเกิดขึ้นกับคุณแม่ได้  แต่คุณแม่ก็ต้องทำการดูแลตนเองอย่างดีให้มากด้วย เพราะสารอาหารไม่ได้ไปดูแลแค่ผมอย่างเดียว ต้องไปดูแลส่วนอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน
http://hairlush.lnwshop.com/

“ครีมกำจัดขน” เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ได้รับความนิยมจากสาวๆ อย่างมาก เพราะมีวิธีใช้ที่ง่าย สะดวกสบาย ไม่เจ็บ

ปราบขนให้อยู่หมัดด้วยครีมกำจัดขน
ขน เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติในบริเวณต่างๆ ของร่างกาย เช่น แขน ขา รักแร้ เหนือริมฝีปาก เป็นต้น ซึ่งขนที่มีลักษณะสีเข้มไป หนาไป และยาวไป กลายเป็นอุปสรรคสิ่งสำคัญในเรื่องความสวยความงาม เพราะผู้หญิงทุกคนล้วนแล้วแต่ต้องการให้ผิวพรรณของตัวเองดูเรียบเนียนไม่สิ่งใดมาบดบัง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องอาศัยผู้ช่วยมาช่วยกำจัดขนเหล่านี้ให้หลุดออกไป โดย “ครีมกำจัดขน” เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ได้รับความนิยมจากสาวๆ อย่างมาก เพราะมีวิธีใช้ที่ง่าย สะดวกสบาย ไม่เจ็บ และประหยัดเวลาเป็นอย่างมาก
วิธีการใช้ครีมกำจัดขนทำได้ง่ายมาก เพียงเริ่มต้นจากการล้างผิวบริเวณที่ต้องการกำจัดขนด้วยน้ำสะอาดแล้วเช็ดผิวให้แห้ง บีบครีมกำจัดขนลงบนผิวใช้ที่ปาดครีมที่แนบมาในกล่องปาดครีมให้หนาปกคลุมเส้นขน ทิ้งไว้ตามระยะเวลาที่ผลิตภัณฑ์แนะนำ เมื่อครบเวลาให้ใช้ที่ปาดครีมทดสอบว่าเส้นขนหลุดออกหรือไม่ ถ้าเส้นขนหลุดออกง่ายให้ปาดครีมออกให้หมด แต่ถ้าเส้นขนยังไม่หลุดออกปล่อยให้ครีมทำงานต่ออีก 5 นาที แล้วจึงค่อยปาดครีมออกให้หมด จากนั้นล้างผิวด้วยน้ำสะอาด แล้วใช้ผ้าสะอาดเช็ดให้แห้ง
ข้อควรระวัง ห้ามทาครีมกำจัดขนทิ้งไว้นานเกินกว่าที่ผลิตภัณฑ์แนะนำเด็ดขาด เพราะอาจส่งผลทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองและผิวไหม้ตามมาได้
หากสาวๆ อยากมีผิวที่เรียบ เนียน สวย ปราศจากขน โดยที่ไม่ต้องเจ็บตัว ครีมกำจัดขน ถือว่าเป็นคำตอบที่เหมาะกับคุณเป็นอย่างยิ่งค่ะ

source: http://stopgrow.lnwshop.com/

ผิวสวยและอ่อนเยาว์เป็นสุดยอดปรารถนาของทุกคน แต่หากไม่ดูแลความหมองคล้ำและจุดด่างดำก็จะเกิดขึ้นได้อย่างง่าย ดังนั้นหากอยากมีผิวที่ขาวใส ไร้รอยดำใต้ขอบตาที่หมั่นรักษา

การใช้ครีมทาเพื่อรักษาผิวขอบตาดำ
เมื่ออายุมากขึ้นริ้วรอย และจุดด่างดำ ย่อมเกิดขึ้นได้เป็นธรรมดา แต่จะมีมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับสภาพผิว การใช้ชีวิตประจำวัน อาหารที่รับประทาน และการใส่ใจดูแลผิวหน้าและผิวรอบดวงตา ก็จะช่วยลดปัญหาขอบตาดำได้ ซึ่งมีครีมทารอบดวงตาที่มีฤทธิ์ยับยั้งการสร้างเม็ดสีของผิวหนังได้ การปล่อยให้ขอบตาแห้ง ขาดการบำรุงย่อมเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดริ้วรอยรอบดวงตา ดังนั้นเราจึงป้องกันด้วยการทาครีมเพื่อไม่ให้เกิดริ้วรอยขึ้น ซึ่งมีครีมและไวเท็นนิ่งที่ใช้ทารอบดวงตาให้เลือกมากมายหลายยี่ห้อ สามารถเลือกได้ตามสภาพผิว หากต้องออกแดดเป็นประจำต้องเลือกที่มีสารยูวี ซึ่งเป็นภัยร้ายของผิวหน้าและผิวกาย
ผิวสวยและอ่อนเยาว์เป็นสุดยอดปรารถนาของทุกคน แต่หากไม่ดูแลความหมองคล้ำและจุดด่างดำก็จะเกิดขึ้นได้อย่างง่าย ดังนั้นหากอยากมีผิวที่ขาวใส ไร้รอยดำใต้ขอบตาที่หมั่นรักษา ทาครีมบำรุงอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการเกิดริ้วรอย ซึ่งดีกว่าการรักษาเมื่อริ้วรอยเกิดขึ้นแล้ว การรักษาจะต้องใช้เวลาและค่าใช้จ่ายสูง โดยสามารถเปรียบเทียบกันได้ระหว่างคนที่ทาครีมบำรุงรอบดวงตาเป็นประจำ     กับคนที่ไม่เคยทาครีมบำรุงเลย โอกาสที่จะเกิดริ้วรอยของผู้ที่ไม่ทาครีมบำรุงจะมีขอบตาดำคล้ำย่อมสูงกว่าคนที่ใส่ใจดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอ หากมีความจำเป็นต้องออกแดดต้องสวมหมวก หรือแว่นตากันแดดเพื่อป้องกันแสงแดดทุกครั้ง เพียงแค่นี้คุณก็จะห่างไกลจากหมีแพนด้าแน่นอน