Sunday, August 16, 2015

เดี๋ยวนี้มีการพัฒนาเลเซอร์ใหม่ๆ ที่ทำให้รอยสักจางลงได้ดีขึ้น

เดี๋ยวนี้มีการพัฒนาเลเซอร์ใหม่ๆ ที่ทำให้รอยสักจางลงได้ดีขึ้น ครอบคลุมหลายสีมากขึ้น ในทางกลับกันวงการรอยสักก็มีการคิดค้นหมึกที่แตกตัวและสลายได้ง่ายเมื่อโดนเลเซอร์อีกด้วย วันนี้ขอนำเสนอการลบรอยสักสักโปรแกรม (RM Laser)
Midlite เป็น Q-Switch ND : Yag layer มีคลื่นความยาว 1064 nm ใช้ลบรอยสักสีดำ สีน้ำเงิน และ 532 nm ใช้ลบรอยสักสีแดง โดย Midlit เข้าไปลบรอยสักด้วยการปล่อยพลังงานความร้อนเพื่อระเบิดเม็ดสีหมึกที่ใช้สักให้แตกตัวออก เป็นอนูขนาดเล็กเม็ดสีที่แตกตัวออกจากกันจะหลุดจากผิว และถูกขับออกมาเป็นของเสียทางระบบน้ำเหลือง ขณะทำการรักษาผู้รับการรักษาจะรู้สึกเจ็บร้อนบ้างบางบริเวณ และมีเลือดซึมออกมาเล็กน้อยบนบริเวณผิวที่รักษา ภายหลังการรักษาต้องดูแลแผลให้ดีเนื่องจากลักษณะของแผล เป็นแผนเปิดต้องทาขี้ผึ้งฆ่าเชื้อ (Antibiotic ointment) แล้วปิดทับด้วยผ้ากอส ตั้งแต่วันแรกของการรักษา และทาขี้ผึ้งเพื่อฆ่าเชื้ออีกประมาณ 7 วันติดต่อกัน
ผลข้างเคียงจากการรักษาด้วย Medlite หลังทำการรักษา ผู้รับการรักษาจะรู้สึกแสบร้อนบนผิวประมาณ 30 – 60 นาที และเมื่อแผลหายดีแล้วผิวบริเวณที่รักษาจะเป็นแผลสีขาวอยู่หลายเดือน ดังนั้นจึงต้องรักษาแผลเป็นต่อไปอีกระยะหนึ่ง ผู้รับการรักษาต้องไปพบแพทย์ เพื่อดูผลการรักษาครั้งแรกหลังผ่านไป 6 เดือน เพื่อให้แพทย์พิจารณาว่าจะทำการรักษาซ้ำหรือไม่ บางรายอาจต้องทำซ้ำประมาณ 7 ครั้ง ที่สำคัญอย่าลืมทายาร่วมด้วยจะทำให้รอยดำจางลงเร็วขึ้น

http://www.tattookiller.biz/article/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A5%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%82%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A1-rm-laser

การใช้ยาทาเพื่อรักษาโรคด่างขาว ไม่เหมาะสำหรับอาการของโรคที่มีเนื้อที่มากกว่าครึ่งหนึ่งของร่างกาย

การรักษาโรคด่างข่าวด้วยสารโมโนเบนซิลเธอร์ออฟไฮโดรควิโนน
http://vitiligo.lnwshop.com/
                                                  (Monovenzyl ether of hydroquinone)
การใช้ยาทาเพื่อรักษาโรคด่างขาว ไม่เหมาะสำหรับอาการของโรคที่มีเนื้อที่มากกว่าครึ่งหนึ่งของร่างกาย  แพทย์จะใช้สารที่เรียกว่าโมโนเบนซิลเธอร์ออฟไฮโดรควิโนน (Monovenzyl ether of hydroquinone) ทาบริเวณเนื้อปกติที่จะทำให้สีผิวปกติกลายเป็นสีผิวแบบเดียวกับด่างขาว วิธีนี้เหมาะสำหรับคนผิวดำหรือคล้ำซึ่งสีผิวของด่างขาวในพวกนี้จะไม่ขาวมากนัก ซึ่งพอใช้ยาตัวนี้กัดสีผิวปกติจะทำให้ผิวปกติมีความขาวใกล้เคียงกับบริเวณด่างขาวและผิวขาวหลังจากการใช้โมโนเบนซิลเธอร์ออฟไฮโดรควิโนน (Monovenzyl ether of hydroquinone) จะใกล้เคียงกับสีผิวปกติของคนขาวหรือคนผิวสีเหลือง
อย่างไรก็ตามการใช้สารโมโนเบนซิลเธอร์ออฟไฮโดรควิโนน นี้มากเกินไปเมื่อได้รับรังสีอุลตราไวโอเลตจากแสงแดดจะมีผลทำให้เกิดการแปรปรวนของเซลล์สร้างสีบางบริเวณ ทำให้มองเห็นเป็นหย่อมสีเข้มมากกว่าปกติ หรือ เป็นฝ้า กระ เป็นจุดเล็กๆ กระจายทั่วใบหน้า หรืออาจจะส่งผลต่อร่างกายเมื่ออายุมากขึ้น  ดังนั้นจึงต้องใช้อย่างระมัดระวังโดยการควบคุมของแพทย์ ไม่ควรซื้อยามาใช้เอง หรือรับบริการจากสถานพยาบาลที่ไม่ได้มาตรฐาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับหมอกระเป๋า ซึ่งเราสามารถตรวจสอบว่าสารใดเป็นสารห้ามใช้ในเครื่องสำอางจากประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่ 12 พ.ศ. 2525 ออกตามพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. 2517 และประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่ พ.ศ. 2536 ออกตามความในพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. 2535

ผ่าตัดรักษาเส้นเลือดขอด หายขาดจริงหรือ?

ผ่าตัดรักษาเส้นเลือดขอด หายขาดจริงหรือ?
http://www.veincare.biz/
ผู้ป่วยไม่ได้เป็นคนตัดสินใจผ่าตัดรักษาเส้นเลือดขอด แต่แพทย์ต่างหากที่เป็นผู้พิจารณาอาการของโรคและวิธีการรักษา สำหรับผู้ป่วยเส้นเลือดขอดกรณีไหนต้องผ่าตัด แพทย์บอกว่ามีหลายกรณีได้แก่ มีอาการเช่น ปวด บวมหรือเส้นเลือดปูดจนน่าเกลียดไม่สามารถใช้ชีวิตปกติได้ และกรณีที่มีโรคแทรกซ้อนจากเส้นเลือดขอด การรักษาเส้นเลือดขอดด้วยการผ่าตัดจึงทางเลือกที่แพทย์แนะนำ
การผ่าตัดมีหลายวิธีได้แก่
·       surgical exploration ผ่าตัดที่ขาหนีบหรือบริเวณหลังเข่าเพื่อตัดและผูกเส้นเลือดที่อยู่ผิวออก
·       surgical stripping เป็นการตัดเส้นเลือดดำที่สงสัยว่าลิ้นในหลอดเลือดผิดปกติออกทั้งเส้น
·       surgical removal เป็นการผ่าตัดเอาเส้นเลือดขอดซึ่งอยู่ลึกออกทั้งเส้น
หลายคนอาจตกใจว่าการจัดเส้นเลือดดำออกไม่เป็นอันตราหรืออย่างไร แต่ทางการแพทย์อธิบายไว้ว่า...แม้ว่าจะผ่าตัดเอาเส้นเลือดดำออกทั้งเส้นแต่ก็ไม่มีผลต่อการไหลเวียน เนื่องจากมีหลอดเลือดดำอื่นที่สามารถทดแทนส่วนที่ถูกตัดออก
ข้อกังวลหลังจากการผ่าตัด
·       เลือดออก หรือมีการเสียเลือด
·       แผลติดเชื้อ
·       ในระหว่างการผ่าตัดอาจจะมีการทำให้เนื้อเยื่อข้างเคียงเสียหายเช่น เส้นเลือดแดง เส้นประสาท
·       เกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำ ประการนี้อันตรายมากต้องระวัง
หลังจากการผ่าตัดต้องนอนพักนานแค่ไหน อาจจะสักสามสี่วัน หมอแนะนำว่าให้นอนพักให้มากที่สุด และการนอนก็ต้องยกเท้าสูง จะหายเป็นปกติ และเดินได้เป็นปกติ ต้องใช้เวลาราวๆ ครึ่งเดือน

Saturday, August 15, 2015

ผิวพรรณที่เนียนเรียบ ปราศจากแผลเป็นทั้งภายในและภายนอก

แผลเป็นเกิดจากอะไร
ผิวพรรณที่เนียนเรียบ ปราศจากแผลเป็นทั้งภายในและภายนอก เป็นสุดยอดปรารถนาของทุกคนโดยเฉพาะผู้ที่รักสวยรักงาม การเกิดแผลเป็นนำมาซึ่งความกลุ้มอกกลุ้มใจ  บางคนถึงกับสูญเสียความมั่นใจไปเลยก็มี โดยเฉพาะแผลเป็นที่เกิดบริเวณที่สังเกตุเห็นได้ง่าย เช่น ผิวหน้า แขน ขา  ที่เกิดจากการเป็นสิวหรือโรคอีสุกอีใส ซึ่งปัจจุบันมีวิธีการและเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สามารถรักษาแผลเป็นให้หายเป็นปกติได้             แต่อย่างไรก็ตามการป้องกันไม่ให้เกิดย่อมเป็นวิธีที่ดีที่สุด
สาเหตุที่ทำให้เกิดแผลเป็นนั้น เกิดจากกระบวนการักษาแผลฉีกขาดของเนื้อเยื่อ มีการสร้างเนื้อเยื่อ     ที่เป็นคอลลาเจน ขึ้นมาทดแทนเนื้อเยื่อที่ถูกทำลายไป เป็นกระบวนการสมานรักษาแผลตามธรรมชาติ และเมื่อแผลหายดีแล้ว จึงทิ้งรอยแผลเป็นไว้เป็นหลักฐาน  แผลที่มักทำให้เกิดรอยแผลเป็น ได้แก่ แผลผ่าตัด แผลจากอุบัติเหตุ แผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก  แผลที่เกิดจากสิว แผลจากโรคอีสุกอีใส แผลจากการฉีดวัคซีน  แผลจากรอยสัก
ที่สำคัญการเกิดแผลเป็นขึ้นอยู่กับความรุนแรงของแผลหรือการฉีกขาดของเนื้อเยื่อมีขนาดลึกเพียงใด การดูแลรักษาแผลว่ารักษาแผลดีหรือไม่ ถ้ามีการรักษาดีจะทำให้แผลหายเร็ว รอยแผลเป็นที่หลงเหลือก็จะน้อย ดังนั้นเมื่อได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลหรือภายหลังจากหายจากโรคอีสุกอีใส เมื่อมีสิวไม่ควรบีบกด และควรดูแลผิวให้ดี หากเป็นแผลเป็นที่รุนแรงเมื่อแผลเริ่มหายใหม่ ๆ ควรทำการนวดหรือการกดบริเวณนั้นเบา ๆ    โดยการนวดอย่างสม่ำเสมอในระยะประมาณ 3-6 เดือนแรก จะช่วยให้รอยแผลเป็นลดการขยายตัวและนูนได้

การรักษาผิวแตกลายจะมีอยู่ด้วยกันหลายวิธี แต่จะให้ได้ผลดีนั้นเราควรรักษากันตั้งแต่เริ่มเป็นหรือในขณะที่ผิวยังแตกเป็นสีชมพู

สารพัดวิธีช่วยรักษาผิวแตกลาย

การรักษาผิวแตกลายจะมีอยู่ด้วยกันหลายวิธี แต่จะให้ได้ผลดีนั้นเราควรรักษากันตั้งแต่เริ่มเป็นหรือในขณะที่ผิวยังแตกเป็นสีชมพู สีแดงหรือสีม่วงอยู่ เพราะถ้าปล่อยไว้จนผิวแตกลายเริ่มเป็นสีขาวจะรักษาให้หายได้ยากและใช้เวลานาน หรือการป้องกันเอาไว้ก่อนก็เป็นวิธีที่ดีเช่นเดียวกัน สำหรับวิธีการรักษานั้นคุณสามารถทำได้ดังนี้ค่ะ

1. ทุกครั้งหลังอาบน้ำให้ทาครีมบำรุงเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ และควรเลือกครีมบำรุงที่เหมาะกับสภาพผิว รวมทั้งควรใช้ให้ถูกประเภทด้วย เช่น ครีมสำหรับทาผิวหน้าหรือผิวกาย และที่สำคัญควรอาบน้ำที่มีอุณหภูมิปกติ เพราะน้ำอุ่นจะมีส่วนทำให้ไขมันที่ชั้นผิวหลุดลอกออกไปและทำให้ผิวแห้งหยาบกร้านซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญทำให้ผิวแตกลายมากยิ่งขึ้น  แต่ถ้าใครที่ชอบอาบน้ำอุ่นหลังอาบน้ำควรทาครีมบำรุงผิวทันทีและเลือกใช้ครีมชนิดเข้มข้น

2. ใช้ครีมรักษาผิวแตกลาย ซึ่งปัจจุบันมีจำหน่ายอยู่หลายยี่ห้อ ก่อนการเลือกใช้ควรศึกษารายละเอียดต่างๆ และเลือกใช้ยี่ห้อที่เชื่อถือได้

3. ใช้สมุนไพรจากธรรมชาติ เช่น การทาผิวด้วยน้ำมันละหุ่ง ว่านหางจระเข้โดยใช้ส่วนที่เป็นวุ้นของว่าน และน้ำใบบัวบก อย่างใดอย่างหนึ่งเป็นประจำทุกเช้าเย็น ผิวแตกลายก็จะค่อยๆ จางลงได้   

4. การศัลยกรรม เช่น การกรอด้วยเกร็ดอัญมณี หรือการเลเซอร์ ก็เป็นวิธีที่ช่วยรักษาผิวแตกลายอย่างได้ผลเช่นกัน  

สะดวกแบบไหนลองเลือกใช้วิธีนั้นกันดูนะคะ เพื่อให้ผิวของคุณกับมาสวยและเรียบเนียนอย่างที่คุณต้องการ

Friday, August 7, 2015

สำหรับใครที่ต้องการลบรอยสักด้วยตัวเอง มีวิธีง่าย ๆ มาแนะนำ 2 วิธีดังนี้ คือ

การลบรอยสักด้วยการใช้ปูนแดงหรือปูนขาว
สำหรับใครที่ต้องการลบรอยสักด้วยตัวเอง มีวิธีง่าย ๆ มาแนะนำ 2 วิธีดังนี้ คือ
1.การนำปูนแดง หรือปูนขาวก็ได้ ผสมกับสบู่ลาย หรือสบู่ทั่วไป คนให้เข้ากัน ขูดบริเวณที่มีรอยสักเล็กน้อย หรือเกาเบา ๆ แล้วเอาน้ำปูนที่ผสมแล้วทาบริเวณรอยสัก ทิ้งไว้ ปูนจะกัดผิวหนังบริเวณนั้น ประมาณ 10 วัน ค่อย ๆ ลอกรอยแผลออก จากนั้นก็รักษารอยแผลเป็น 
2.วิธีการทำปูนแดง(ปูนกินหมาก) ผสมกับสบู่ซันไลน์และน้ำมะนาว นำมาผสมแล้วคนให้เป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นนำเนื้อครีมที่ได้ มาทาลงบนรอยสัก ระวังอย่าให้โดนบริเวณที่ไม่มีรอยสักเพราะจะแสบมาก  หลังจากนั้นทิ้งไว้ประมาณ ชั่วโมง  แล้วค่อยๆลอกออกทีละนิด จากนั้น แนะนำให้ทายา "ไพแร็ด-ไวโอเล็ต" หรือ ยาเบตาดีน   สำหรับคนที่มีรอยสักลึก แนะนำให้ทำซ้ำกัน 2-3ครั้ง แต่ละครั้งควรห่างกัน 2-3 วัน หรือแผลจะแห้งลง
วิธีนี้เป็นวิธีที่ไม่ต้องเสียเงินมาก และถ้าดูแลดีจะเกิดแผลเป็นน้อยมาก เหมาะสมหรับคนที่มีงบน้อยแต่ต้องการลบปัญหากวนใจทิ้งไป ทั้งนี้ปัจจัยที่จะทำให้การลบรอยสักด้วยวิธีนี้ประสบความสำเร็จขึ้นอยู่ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของส่วนผสมและความอดทนต่อความเจ็บปวดของผู้ลบด้วย  และยังเหมาะกับคนที่ไม่อยากเสี่ยงกับวิธีการผ่าตัด หรือการทำเลเซอร์ที่มีค่าใช้จ่ายสูง อย่างไรก็ตามการลบรอยสักที่ดีควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผิวหนังที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อป้องกันการติดเชื้อและภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ 

การเป็นโรคผิวหนังอักเสบนั้น ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่โรคร้ายแรงและน่ากลัวมากเท่ากับโรคร้ายแรง

ป้องกันตนเองอย่างไรจากการเป็นโรคผิวหนังอักเสบ
                  การเป็นโรคผิวหนังอักเสบนั้น ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่โรคร้ายแรงและน่ากลัวมากเท่ากับโรคร้ายแรงและโรคติดต่อประเภทอื่น ๆ แต่เมื่อเป็นแล้ว หากไม่รีบรักษาและปล่อยทิ้งไว้ ก็อาจส่งผลเสียและเกิดอาการแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้เช่นกัน ซึ่งการเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการป้องกันตนเองจากการเป็นโรคผิวหนังอักเสบเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้เราสามารถห่างไกลจากโรคผิวหนังอักเสบได้
                  ก่อนการเรียนรู้วิธีการป้องกันตนเองจากการเป็นโรคผิวหนังอักเสบนั้น เราต้องรู้ก่อนว่าโรคผิวหนังอักเสบมีสาเหตุการเกิดมาจากสาเหตุใด เพื่อให้เราสามารถป้องกันตนเองได้อย่างถูกต้องและถูกวิธี ซึ่งต่อไปนี้คือสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคผิวหนังอักเสบ
-       โรคผิวหนังอักเสบจากเชื้อรา
-       โรคผิวหนังอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย
-       โรคผิวหนังอักเสบจากเชื้อไวรัส
ซึ่งโดยทั่วไปแล้วเกิดจากการไม่รักษาผิวหนังให้สะอาด จนเกิดจากหมักหมมของเชื้อ
ประเภทต่าง ๆ จนกลายเป็นโรคผิวหนังอักเสบ ไม่ว่าจะเป็น กลากเกลื้อน เชื้อราที่ผิวหนัง เกิดจากอักเสบที่รูขุมขน เริม หูด ฯลฯ เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นโรคผิวหนังอักเสบทั้งสิ้น ดังนั้นวิธีการเดียวที่สามารถป้องกันตนเองจากการเป็นโรคผิวหนังอักเสบได้ คือการรักษาผิวหนังให้สะอาดเป็นประจำ เพราะผิวหนังที่สะอาดนอกจากจะช่วยป้องกันการเกิดโรคผิวหนังอักเสบได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังช่วยให้ผู้ที่กำลังเป็นโรคนี้อยู่สามารถรักษาให้หายขาดได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นเราทุกคนจึงควรดูแลและทำความสะอาดผิวให้สะอาดเป็นประจำทุกวัน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ง่ายที่สุดและคงไม่มีใครที่ไม่สามารถทำได้...

เทคโนโลยีสมัยใหม่กำจัดผิวที่ไม่สวยออกไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ และแก้ไขปัญหาเส้นเลือดฝอย เส้นเลือดขอด ได้แบบตรงจุด

ใช้เลเซอร์ รักษาเส้นเลือดขอดดีอย่างไร?
เทคโนโลยีสมัยใหม่กำจัดผิวที่ไม่สวยออกไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ  และแก้ไขปัญหาเส้นเลือดฝอย เส้นเลือดขอด ได้แบบตรงจุด แถมปลอดภัย และรวดเร็วกว่าการรักษาแบบอื่นๆเทคโนโลยีนี้คือเลเซอร์นั่นเอง
เลเซอร์มีหลายชนิดให้เลือก โดยมีจะยิงผ่านเข้าไปใต้ผิวบริเวณเป้าหมายที่มีฮีโมโกลบินในหลอดเลือดที่เราไม่ต้องการความร้อนจากเลเซอร์จะไปทำลายผนังเส้นเลือดให้ย่อยสลายและหายไปตามธรรมชาติ ไม่ต้องกลัวว่าความร้อนจะทำลายผิวหนังบริเวณใกล้เคียงเพราะเทคโนโลยีเหล่านี้ได้คิดค้นการปกป้องจากความร้อนของเลเซอร์ด้วยระบบทำความเย็นของหัวยิง
การรักษาด้วยเครื่องเลเซอร์ ถือเป็นเทคโนโลยีที่นิยมมากในปัจจุบัน และเหมาะสำหรับ เส้นเลือดขอด ขนาดเล็ก แม้การรักษาผิวหนังบริเวณนั้นอาจจะมีอาการบวมแดงเล็กน้อย และจะหายไปเองภายใน 2-3 วัน  ซึ่งเครื่องเลเซอร์ที่มีใช้อยู่ในบ้านเรา  ได้แก่  เครื่อง Gentle YAG   และเครื่อง  Cooltouch Varia
นอกจากนี้ยังมีการรักษาอีกวีหนึ่ง โดย Low Level Laser ซึ่งเหมาะกับเส้นเลือดขอดขนาดใหญ่ โดยเลเซอร์ชนิดนี้สามารถทำให้เส้นเลือดขอดโดยการลดอาการบวมน้ำจากการคั่งของหลอดเลือดดำ พลังงานของเลเซอร์จะเข้าไปทำให้เกิดการกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ข้อดีของการบำบัดด้วยวิธีนี้คือ ไม่ต้องฉีดยาชา ไม่มีแผล ทำแล้วกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันที
ทำไมต้องเลือกวิธีใช้เลเซอร์ เพราะหลานท่านอาจะกลัวเข็มไม่กล้าใช้วิธีฉีดหรือกลัวการผ่าตัด ทำเลเซอร์เพื่อลบเลือนเส้นเลือดจะให้ความรู้สึกจี๊ดๆ ที่ผิว ไม่เหมือนกับการฉีดและการผ่า  สามารถทำได้กับผิวทุกส่วน ส่วนที่ได้รับความนิยมมาก คือ ใบหน้า ลำคอ หน้าอก และขา แต่การทำเลเซอร์เส้นเลือดจำเป็นต้องทำหลายครั้ง และหลังทำเลเซอร์เส้นเลือดสำคัญมากคือหลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดแรงโดยตรง
ส่วนข้อดีของการใช้เลเซอร์ รักษาเส้นเลือดขอดดี นั้นคือเป็นการรักษาเส้นเลือดขอดที่มีประสิทธิภาพ และรวดเร็ว ขณะทำการรักษาก็จะรู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

Sunday, August 2, 2015

เป็นที่รู้กันว่าเมื่อเกิดแผลเป็นขึ้นแล้วการที่จะรักษาให้หายปกติ 100 เปอร์เซ็นต์ นั้นเป็นไปได้ยาก

ทำอย่างไรให้แผลเป็นหายเร็ว
เป็นที่รู้กันว่าเมื่อเกิดแผลเป็นขึ้นแล้วการที่จะรักษาให้หายปกติ 100 เปอร์เซ็นต์ นั้นเป็นไปได้ยาก วิธีการที่ดีที่สุดจึงเป็นการป้องกันไม่ให้ร่างกายส่วนใดเกิดแผลขึ้น แต่เมื่อเกิดแผลขึ้นแล้วมีข้อแนะนำในการที่จะทำให้แผลหายเร็วขึ้น ด้วยการรักษาสภาวะแวดล้อมและความสะอาดของแผลอย่างเหมาะสม รักษาอุณหภูมิให้อบอุ่น อยู่ในที่อากาศถ่ายเทได้สะดวกเพื่อให้มีออกซิเจนในปริมาณที่เหมาะสม  มีความชื้นเพียงพอ ควบคุมความเป็นกรด – ด่าง
สำหรับการดูแลเบื้องต้นสำหรับแผลที่เล็ก ๆ น้อย ๆ เริ่มต้นด้วยการล้างด้วยน้ำสะอาด ปิดแปลให้ปราศจากเชื้อโรค ไม่ควรใช้แอลกอฮอล์หรือยาฆ่าเชื้อทาที่บาดแผลโดยตรง เพราะอาจจะส่งผลต่อการสร้างเนื้อเยื่อ แต่ควรใช้เช็ดบริเวณรอบ ๆ เพื่อทำความสะอาด
ถ้าเป็นแผลที่มีขนาดใหญ่ หรือแผลที่มีความลึกมาก ควรไปพบแพทย์ ระวังอย่าให้แผลโดนน้ำ        เมื่อแผลเริ่มปิดจึงทายารักษารอยแผลภายนอก ไม่ควรแคะ แกะ เกา เพราะจะทำให้แผลหายช้าหรืออาจติดเชื้อลุกลามขึ้นได้ อย่าลืมทาครีมวิตามินอีอย่างต่อเนื่องถึงแม้แผลจะหายดีแล้วก็ตาม การรักษารอยแผลเป็น เป็นการรักษาที่ต้องใช้เวลา ดังนั้นอย่าหลงเชื่อคำโฆษณาเพื่อจำหน่ายยาหรือวิธีการรักษาแผลเป็นที่เกินความจริง เพราะยาอาจจะมีส่วนผสมของสารที่เป็นพิษต่อผิวหนัง โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ต้องปรึกษาแพทย์หรือให้แพทย์สั่งจึงจะใช้ยาได้   ยิ่งถ้าเป็นแผลที่เกิดบริเวณใบหน้าและดวงตา   ต้องระมัดระวังการใช้ยาเป็นพิเศษ เพราะยาบางชนิดอาจทำให้ตาบอดได้


ผิวแตกลายถือเป็นปัญหาอย่างหนึ่งของผิวพรรณที่ทำให้หลายคนรู้สึกเป็นกังวล

สาเหตุของผิวแตกลาย
ผิวแตกลายถือเป็นปัญหาอย่างหนึ่งของผิวพรรณที่ทำให้หลายคนรู้สึกเป็นกังวล ดังนั้นเรามาดูสาเหตุของการเกิดผิวแตกลายกันดีกว่าค่ะ เพื่อเป็นแนวทางไว้สำหรับป้องกันแต่เนิ่นๆ

1. เกิดจากการขยายตัวของผิวหนังอย่างรวดเร็ว เป็นการแตกตัวของคลอลาเจนใต้ผิวหนังจนเกิดการฉีกขาด จะพบได้ง่ายในคนอ้วน และคุณแม่ขณะตั้งครรภ์ เพราะจะเป็นช่วงที่น้ำหนักตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว

2. ผิวแตกลายที่เกิดในช่วงวัยรุ่นเนื่องจากเกิดการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย ซึ่งสามารถพบได้ทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย โดยเริ่มพบช่วงอายุประมาณ 12-13 ปี

3. เกิดจากการใช้ยาทาผิวที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์เป็นเวลานาน เพราะยาเหล่านี้มีผลให้คลอลาเจนใต้ผิวหนังเกิดแตกตัวเช่นกัน  

4. ผิวแตกลายที่เกิดจากการออกกำลังกาย โดยเฉพาะผู้ที่เล่นฟิตเนตอาจจะประสบปัญหานี้ เพราะมักมีการยืดตัวของกล้ามเนื้อที่รวดเร็วเกินไป

สำหรับผิวแตกลายในช่วงแรกรอยจะเป็นสีชมพูหรือสีแดงและสีม่วงซึ่งจะทำการรักษาให้หายได้ง่ายและใช้เวลาไม่นาน แต่เมื่อเวลาผ่านไปรอยแตกลายจะกลายเป็นรอยริ้วสีขาว ซึ่งจะทำการรักษาได้ยากหรือต้องใช้เวลานานพอสมควร ดังนั้นอันดับแรกถ้าไม่อยากให้ผิวเกิดแตกลายควรทำการป้องกัน เช่นการทาครีมบำรุงผิวหรือการควบคุมน้ำหนัก รวมทั้งผู้ที่ออกกำลังกายควรเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำสะอาดเป็นประจำ และควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาแฟอีน เช่น ชา กาแฟ และน้ำอัดลม ก็จะเป็นการช่วยลดปัญหาการเกิดผิวแตกลายได้

การเกิดโรคขนคุดนั้น ถึงแม้จะไม่ใช่โรคที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน

วิธีการง่าย ๆ กำจัดขนคุดด้วยตัวเอง
            การเกิดโรคขนคุดนั้น ถึงแม้จะไม่ใช่โรคที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว ก็ทำให้ผู้ที่เป็นโรคนี้หมดความมั่นใจได้มากพอสมควร โดยเฉพาะบริเวณที่เห็นได้อย่างชัดเจนอย่างเช่น แขน ขาและใบหน้า ซึ่งในความเป็นจริงแล้วการกำจัดขนคุดนั้นหากมีอาการไม่รุนแรง เราก็สามารถจัดการขนคุดเหล่านี้ได้ด้วยตัวเอง
            สำหรับวิธีการกำจัดขนคุดด้วยตัวเองนั้น มีวิธีการง่าย ๆ หลายวิธีที่หนุ่มสาวหลายคนเลือกใช้ ซึ่งต้องขออธิบายให้เข้าใจก่อนว่า ขนคุดที่เราสามารถจัดการได้เองต้องเป็นขนคุดที่ไม่มีการอักเสบของรูขุมขนร่วมด้วย เพราะขนคุดลักษณะนี้จำเป็นต้องให้แพทย์เป็นผู้รักษาเท่านั้น ซึ่งต่อไปนี้คือวิธีการรักษาขนคุดอย่างง่ายที่ทุกคนสามารถทำได้ด้วยตัวเองจากที่บ้าน
-      การถอนขนคุดด้วยแหนบ                   ใช้สำหรับถอนขนคุดที่ขึ้นตุ่มนูนชัดเจน
-      การประคบด้วยผ้าชุบน้ำอุ่น    เพื่อช่วยให้รูขุมขนขยายและกำจัดขนคุดได้ง่าย
มากยิ่งขึ้น
-      ใช้ไข่ไก่                                            ใช้ในกรณีที่กำจัดขนคุดแล้ว ขนคุดออกไม่หมด
จึงใช้ไข่ไก่ทาและลอกออกอีกครั้ง
-      การสครับผิวเป็นประจำ                     ช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้น   
-      การบำรุงด้วยทรีทเมนท์                     ใช้หลังจากกำจัดขนคุด เพื่อให้ผิวสุขภาพดีขึ้น
-      ใช้น้ำส้มสายชู                                  ช่วยกำจัดเซลล์ที่ตายแล้วและบริเวณผิวหนังที่
ได้รับความเสียหาย
            เหล่านี้เป็นวิธีการกำจัดขนคุดที่ทุกคนสามารถจัดการได้ด้วยตัวเอง รวมถึงช่วยให้บริเวณที่เกิดขนคุดนั้นมีสุขภาพผิวที่ดีขึ้น ดังนั้นหากใครกำลังเป็นขนคุดอยู่ล่ะก็ รับระกันว่าวิธีการเหล่านี้ช่วยกำจัดขนคุดได้ง่ายขึ้นและได้ผลดีอย่างแน่นอน...

การเกิดขนคุดนั้น ไม่ใช่สิ่งที่หลายคนปรารถนา แต่เมื่อมีขนคุดเกิดขึ้นแล้วเราก็จำเป็นต้องกำจัดขนคุดเหล่านั้น

รู้ได้อย่างไรว่ากำลังเป็นขนคุด
            การเกิดขนคุดนั้น ไม่ใช่สิ่งที่หลายคนปรารถนา แต่เมื่อมีขนคุดเกิดขึ้นแล้วเราก็จำเป็นต้องกำจัดขนคุดเหล่านั้นให้หมดไปหรือทำให้ขนคุดทุเลาเบาบางลงบ้าง เพื่อให้ผิวพรรณสวยงามและกลับมาเรียบเนียนอีกครั้ง
            โดยปกติแล้วการเกิดขนคุดมักมีสาเหตุสำคัญมาจากพันธุกรรมที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับการสร้างเซลล์ผิวหนัง ส่งผลให้รูขุมขนเกิดการอุดตันและขนไม่สามารถขึ้นได้ตามปกติ จนเกิดเป็นขนคุดอยู่ภายใต้ผิวหนังนั่นเอง ซึ่งการจะสังเกตว่าเราเป็นขนคุดหรือไม่นั้น เพียงลูบที่ผิวหนังและพบว่าที่ผิวมีตุ่มนูนเล็ก ๆ ไม่เรียบเนียน ก็อาจสงสัยได้แล้วว่าเราอาจเป็นโรคขนคุด นอกจากนี้การมีผิวหนังหยาบคล้ายกระดาษทรายและเป็นหนังไก่ ก็ทำให้เรามั่นใจได้เช่นกันว่าเรากำลังเป็นโรคขนคุดอย่างแน่นอน
            สำหรับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการเป็นโรคขนคุดนั้น ในความเป็นจริงแล้วไม่ส่งผลกระทบใด ๆ ต่อสุขภาพมากนัก อาจมีอาการคันและเจ็บแสบบ้างในกรณีที่ขนคุดอักเสบ ซึ่งก็พบได้น้อยมากที่จะมีอาการรุนแรงตามที่กล่าว ดังนั้นจึงหมดความกังวลได้เกี่ยวกับผลกระทบที่ร่างกายจะได้รับจากขนคุด ส่วนวิธีการรักษานั้นจะรักษาตามลักษณะอาการ ซึ่งโดยปกติหากพบว่าเป็นโรคขนคุดในระดับที่ไม่มีความรุนแรง การขัดผิว การสครับผิว รวมไปถึงการประคบร้อนด้วยนมและขนมปัง ก็อาจช่วยกำจัดขนคุดให้หลุดออกได้ และหากทำซ้ำเป็นประจำจะพบว่าขนคุดหมดไปได้ในที่สุด...

การกำจัดขนถาวรด้วยเลเซอร์ เป็นการใช้คลื่นความยาวของแสงในช่วง 650 – 950 nm

การกำจัดขนถาวรด้วยแสง IPL (Intence Pulsed Light)
การกำจัดขนถาวรด้วยเลเซอร์ เป็นการใช้คลื่นความยาวของแสงในช่วง 650 – 950 nm (นาโนเมตร) ทำงานโดยการส่งผ่านแสงลงไปในผิวหลัง เม็ดสีของขน จะถูกดูดซึมโดยเม็ดสีเมลานีนในต่อมขน พลังงานที่ถูกดูดซึมนี้เองจะไปทำลายเซลล์ลากขนที่อยู่รอบ ๆ ทำให้กระบวนการเจริญเติบโตของเส้นขนใหม่ถูกยับยั้ง เมื่อเซลล์รากขนถูกทำลายเส้นขนจะหลุดล่วงไป และขนใหม่ที่งอกขึ้นมาจึงไม่สมบูรณ์ คือมีลักษณะเส้นบางลง และสีจางลง หลังทำอาจมีขนที่หลงเหลืออยู่ประมาณร้อยละ 10 – 20 ซึ่งจะเป็นขนบาง ๆ อ่อน ๆ เหตุผลที่ต้องทำประมาณ 5 – 8 ครั้ง กว่าที่ขนจะถูกทำลายทั้งหมดก็เพราะว่า เส้นขนโดยทั่วไปมีทั้งหมด 4 ระยะปะปนกันไป เส้นขนจะถูกเลเซอร์ทำลายได้ดีที่สุดคือระยะที่ 4 ซึ่งมีอยู่ประมาณร้อยละ 25 – 30 ของขนทั้งหมดเป็นขนที่โตเต็มที่แล้วมีความเข้มข้นของเม็ดสีสูง จะถูกกำจัดไป ดังนั้นการรักษาจึงควรเว้นระยะห่างกันประมาณ 1 – 2 เดือน เพื่อให้มีขนระยะที่ 4 โตขึ้นมาให้เต็มที่จะทำให้การกำจัดขนด้วยเลเซอร์แต่ละครั้งมีประสิทธิภาพสูงสุด
ผลที่ได้จากการกำจัดขนด้วยวิธีนี้ได้ผลดีเป็นที่น่าพอใจ ขนจะไม่กลับมาขึ้นอีก ผิวที่ได้รับการรักษาจะเรียบเนียนขึ้น ลดกลิ่น และแก้ไขขนคุด (Ingrown hair) รูขุมขนจะมีขนาดเล็กลงและลดการอุดตันในรูขุมขน ปลอดภัยต่อผิวหนังชั้นบนแต่มีค่าใช้จ่ายสูง และต้องเข้ารับบริการหลายครั้งติดต่อกัน

การกำจัดขนด้วยเลเซอร์ถ้าจะให้ได้ผลต้องทำประมาณ 4 – 8 ครั้ง

การกำจัดขนถาวรด้วยเลเซอร์
เลเซอร์ที่ใช้กำจัดขนมีหลายชนิด เช่น Alexan drite long pulse lkaser,Diode laser เหมาะสำหรับผิวสีอ่อน และLong Pulse ND – YAG Laser เหมาะสำหรับผิวสีเข้ม  เป็นการกำจัดขนด้วยคลื่นความยาว 755 – 1060  nm (นาโนเมตร) เป็นเครื่องมือชนิดที่ใช้พลังงานสูงที่ให้ผลได้ดีกว่า IPL เนื่องจากมีความยาวคลื่นที่เหมะสม จึงสามารถทำลายลึกถึงรากขน เหมาะสำหรับกำจัดขนบริเวณพื้นที่ใหญ่ ๆ เช่น ขนหน้าอก หน้าท้อง มีระบบความเย็นที่หัวเลเซอร์ซึ่งจะช่วยลดอุณหภูมิที่ผิวชั้นบน ทำให้สบายผิว
การกำจัดขนด้วยเลเซอร์ถ้าจะให้ได้ผลต้องทำประมาณ 4 – 8 ครั้ง จนกว่าขนจะถูกทำลายไปหมดซึ่งขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล หากทำอย่างต่อเนื่อง ขนก็จะหมดไปอย่างถาวร ราคาทำต่อครั้งประมาณ 2,000 – 3,000 บาท คำแนะนำทั่วไปไม่ควรทำกิจกรรมที่ตากแดดกลางแจ้งก่อนทำเลเซอร์ หากมีโรคประจำตัวหรือรับประทานยาบางชนิดควรแจ้งให้แพทย์ทราบ งดการทำทรีทเมนต์ หรือการใช้สารบำรุงที่มีส่วนผสมของ AHA หรือกรดผลไม้ ไม่ควรถอนขนในช่วง 3 สัปดาห์ก่อนการทำเลเซอร์ และไม่ควรทำเลเซอร์ถี่หรือเร็วกว่าที่แพทย์นัด
 อย่างไรก็ตามการใช้เลเซอร์ อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน ผิวไหม้ หรือผิวเป็นรอยด่างขาวมีอาการบวมเป็นรอยแดง ผู้เข้ารับการรักษาจึงควรรู้เท่าทันและตรวจสอบว่าเครื่องมือที่ใช้เป็นเลเซอร์ประเภทใด เหมาะสมกับสภาพผิวของตนเองหรือไม่ เนื่องจากเส้นขนจะมีลักษณะความหนาบาง และสีแตกต่างกันตามเชื้อชาติ สีผิวบริเวณเส้นขนขึ้น ควรให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้วินิจฉัยตามความเหมาะสมของแต่ละบุคคล