Monday, June 12, 2017

ผู้ป่วยที่อยู่นภาวะกรดไหลย้อนบางรายอาจมีการเปลี่ยนแปลงของเซลล์เยื่อบุ

ภาวะแทรกซ้อนของผู้ป่วยกรดไหลย้อน..รักษาได้หรือไม่??

ผู้ป่วยที่อยู่นภาวะกรดไหลย้อนบางรายอาจมีการเปลี่ยนแปลงของเซลล์เยื่อบุหลอดอาหารจนกลายเป็น หลอดอาหารบาร์เรตต์   ซึ่งสามารถวินิจฉัยด้วยการส่องกล้องลงไปที่หลอดอาหารและมีการนำชิ้นเนื้อไปพิสูจน์   ซึ่งผู้ป่วยที่มีภาวะนี้มีโอกาสเป็นมะเร็งหลอดอาหารประมาณร้อยละ 2-5 ซึ่งหลังจากที่เกิดกรดไหลย้อนแล้วจะมีอาการเจ็บเวลากลืนอาหาร อาเจียนบ่อย กลืนลำบากและน้ำหนักลด ส่วนผู้ที่มีกรดไหลย้อนถึงคอหอยและหลอดลมก็อาจทำให้กลายเป็นคออักเสบ หลอดลมอักเสบ หรือเกิดการเจ็บคอและไอเรื้อรัง ทำให้กล่องเสียงอักเสบ เพราะมีเสียงแหบ ตรวจพบสายเสียงมีอาการบวมแดง โรคหืดกำเริบบ่อยเพราะน้ำย่อยไหลเข้าไประคายเคืองต่อหลอดลม

อาการของภาวะกรดไหลย้อน
หากปล่อยให้เป็นเรื้อรังนานๆ อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน ซึ่งตามอาการที่พบเห็นได้บ่อยคือ หลอดอาหารอักเสบ  ผู้ป่วยภาวะกรดไหลย้อนจะมีอาการเจ็บหน้าอกเวลากลืนอาหาร หากไม่ได้รับการรักษา ต่อมาอาจกลายเป็นแผลหลอดอาหาร    มีอาการเลือดออก หากมีการอาเจียนจะเป็นเลือด และถ่ายเป็นสีดำ และอาจเกิดภาวะหลอดอาหารตีบซึ่งป่วยกรดไหลย้อนจะมีอาการกลืนอาหารลำบาก อาเจียนบ่อย ทำให้จำเป็นต้องรักษาด้วยการใช้เครื่องมือถ่างหลอดอาหารเป็นครั้งคราว ถ้าเป็นมากอาจต้องรักษาด้วยการผ่าตัด ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง คืออาการของปอดอักเสบที่เกิดจากการสำลักน้ำย่อยเข้าไปในปอด จะพบบ่อยในทารกอายุ  1-4  เดือน โรคนี้ยังเป็นปัจจัยหนึ่งของการเกิดโรคไซนัสอักเสบเรื้อรัง ทำให้ผิวฟันกร่อนจากการกัดของน้ำย่อยเป็นเวลานาน

การดำเนินโรคและการรักษาโรคกรดไหลย้อน
ถ้าได้รับการวินิจฉัยและรักษาแต่เนิ่นๆ ของโรคกรดไหลย้อนอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีการปฏิบัติตัวอย่างถูกต้อง จะช่วยให้โรคทุเลาหรือหายเร็วขึ้น แต่หลังหยุดยาอาจกำเริบได้เป็นครั้งคราวทำให้ต้องคอยกินยาตามอาการกรดไหลย้อนที่กำเริบมากินอีกครั้ง แต่สำหรับสตรีที่ตั้งครรภ์ หลังคลอดอาการก็อาจหายไปได้เอง แต่ถ้าผู้ป่วยกรดไหลย้อนปล่อยปละละเลย ไม่กินยา ไม่ยอมปฏิบัติตัวตามแพทย์สั่งก็มักจะเป็นรุนแรง และเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ได้

http://acidreflux.lnwshop.com/

No comments:

Post a Comment