การเป็นโรคสะเก็ดเงิน เกิดจากปัจจัยหลายประการ เช่น เชื้อโรค

ปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคสะเก็ดเงิน

                การเป็นโรคสะเก็ดเงิน เกิดจากปัจจัยหลายประการ เช่น เชื้อโรค สารเคมีในที่ทำงาน หรือสภาวะทางฟิสิกส์ที่เป็นพิษต่อผิวหนังโดยตรง เช่น การแกะ การเกา และมีปัจจัยที่ไม่สามารถแก้ไขได้ คือ ความผิดปกติทางพันธุกรรม  การรับประทานอาหารหรือยาบางชนิด การเปลี่ยนแปลงทางฮอร์โมน ความผิดปกติต่าง ๆ มักพบที่หนังศีรษะ ผิวหนังส่วนที่นูนของกระดูก เช่น ข้อศอก ข้อเข่า ก้นกบ และเล็บ ทำให้เกิดอาการเล็บเป็นหลุม ตัวเล็บขรุขระ เล็บแยกออกจากผิวหนัง

                 ความเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นเป็นผลจากการเสียสมดุลระหว่างตัวผู้ป่วยกับสภาพแวดล้อมของผู้ป่วย เนื่องจากสภาพแวดล้อมมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ผู้ป่วยและผู้เกี่ยวข้องจึงต้องศึกษาหาความรู้เรื่องปัจจัยที่ทำให้โรคสะเก็ดเงินกำเริบ และหาทางระงับ และเสริมสร้างปัจจัย      ที่ทำให้โรคสงบ ด้วยการเรียนรู้วิธีใช้ยาที่ถูกต้อง รู้ว่าใช้อย่างไรจึงจะได้ผลดีและมีผลข้างเคียงน้อยที่สุด และหลีกเลี่ยงการที่จะทำให้ร่างกายได้รับการกระทบกระเทือนจากภายนอก

               นอกจากนั้นยังเกิดจากการที่เซลล์ผิวหนังแก่เร็วอย่างผิดปกติ ทำให้เกิดการสะสมเป็นแผ่นหน้า เป็นเกล็ด มีลักษณะเป็นผื่นแดง มักมีอาการกับผู้ที่อ้วนลงพุง และคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ เพราะเป็นปฏิกิริยาของภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นต่อสิ่งแปลกปลอมภายนอก ที่ตอบสนองที่ไวและรุนแรงผิดปกติมีผลต่อเนื้อเยื่อร่างกาย โรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง ซึ่งโดยปกติของระบบภูมิคุ้มกัน          มีหน้าที่ต่อต้านและทำลายสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกาย แต่กลับทำร้ายเนื้อเยื่อของตัวเอง        จนทำให้เกิดการอักเสบของอวัยวะขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งความไม่สมดุลระหว่างออกซิแดนซ์และแอนตี้ออกซิแดนต์ ที่กล่าวมาล้วนเป็นสาเหตุให้เกิดโรคลสะเก็ดเงินทั้งสิ้น

สาเหตุสำคัญของการเกิดโรคผิวหนังอักเสบนั้น มีสาเหตุในการเกิดมากมาย

โรคผิวหนังอักเสบที่เกิดจากเชื้อราและวิธีการรักษา

                  สาเหตุสำคัญของการเกิดโรคผิวหนังอักเสบนั้น มีสาเหตุในการเกิดมากมาย ซึ่งหนึ่งในสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคผิวหนังอักเสบที่พบได้บ่อยในคนทั่วไป นั่นคือ โรคผิวหนังอักเสบจากเชื้อรา

                  สำหรับโรคผิวหนังอักเสบที่เกิดจากเชื้อรานั้น สามารถเกิดขึ้นได้ทั่วไปในทุกลักษณะอากาศ ซึ่งลักษณะสำคัญของโรคนี้คือก่อให้เกิดสภาวะอับชื้น ซึ่งพบได้มากในผู้ป่วยที่มีภูมิต้านทานต่ำ เป็นโรคเบาหวานและกินยาปฏิชีวนะเป็นเวลานาน ๆ โดยโรคผิวหนังอักเสบที่พบได้ทั่วไป ได้แก่ กลากประเภทต่าง ๆ และเกลื้อน ซึ่งสามารถแจกแจงวิธีการรักษาตามลักษณะได้ดังนี้

-       กลาก มีวิธีการรักษาคือ ใช้ยาฆ่าเชื้อทาจนแผลแห้งและหาย ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ

4 – 8 สัปดาห์ แตกถ้าแผลลุกลามและมีบริเวณกว้าง อาจต้องทานยาฆ่าเชื้อร่วมด้วย

-       เกลื้อ มีวิธีการรักษา คือ ทำความสะอาดผิวหนังให้สะอาดเป็นประจำทุกวัน แพทย์

อาจให้ทั้งยาทา ยาสระหรือสบู่ โดยใช้ติดต่อกันเป็นเวลา 3 – 5 วัน โดยทำซ้ำในทุกเดือน ซึ่งในรายที่มีอาการรุนแรง แพทย์อาจจ่ายาทานอย่างต่อเนื่องจนครบกำหนดและหายขาดในที่สุด

                  เหล่านี้คือโรคผิวหนังอักเสบที่เกิดจากเชื้อราและวิธีการรักษาที่ถูกต้อง ได้ผล หรือในบางคน ช่วยให้อาการทุเลาลงไปได้มากจนอาการหายขาดในที่สุด เพราะฉะนั้น หลังจากตรวจพบว่าเป็นโรคผิวหนังอักเสบที่เกิดจากเชื้อราแล้วละก็ ควรรักษาตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดและตั้งใจ เพราะผิวหนังอักเสบที่เกิดจากเชื้อราถือว่าเป็นโรคผิวหนังที่มีความรุนแรงและส่งผลกระทบต่อสุขภาพน้อยมากที่สุด จึงไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวลเมื่อเป็นโรคผิวหนังอักเสบจากเชื้อรา...

แพทย์ผิวหนังแบ่งชนิดของโรคด่างขาว ตามการกระจายโรค ดังนี้

ชนิดของโรคด่างขาว

แพทย์ผิวหนังแบ่งชนิดของโรคด่างขาว ตามการกระจายโรค ดังนี้

1.     ด่างขาวที่เป็นหย่อม  มีจำนวนรอยขาว วงเดียวหรือมากกว่า ในบริเวณใดบริเวณหนึ่งของร่างกายมักเกิดในคนอายุน้อย

2.     รอยขาวเป็นกลุ่ม มักเกาะกลุ่มเรียงกันคล้ายเรียงไปตามเส้นประสาท อยู่ข้างเดียวกันมากเกิดในคนอายุน้อย

3.    รอยขาวกระจายตามส่วนต่าง ๆ ทั่วไป  พบมากที่สุด มักพบในผู้ใหญ่ มักลามขึ้นเรื่อย ๆ รักษาค่อนข้างยาก

4.     รอยขาวที่ปลายนิ้ว มักเป็นปลายนิ้วมือนิ้วเท้า รอบริมฝีปาก พบในผู้ใหญ่ มักลามขึ้นเรื่อย ๆ บ่งบอกถึงการพยากรณ์โรคที่ไม่ดีและไม่ค่อยตอบสนองต่อการรักษา

5.ด่างขาวเกือบทั้งตัว เป็นกระจายเกือบทั่วร่างกาย เหลือบริเวณสีปกติเล็กน้อย พบในผู้ใหญ่และสัมพันธ์กับโรคต่อไร้ท่ออื่น ๆ เช่น โรคของต่อมไทรอยด์ หรือโรคเบาหวาน

 แพทย์ผิวหนังจะรักษาตามอาการแต่ละชนิด ถ้าเป็นหย่อม ๆ หรือมีรอยขาวเล็กน้อยอาจใช้วิธีปกปิดด้วยการใช้เครื่องสำอาง แต่ถ้าเป็นมากหรือมีการกระจายไปทั่วร่างกาย จะใช้วิธีการรักษาทั้งการใช้ยารับประทานกับยาทาจะใช้กับคนที่เป็นโรคนี้ไม่นานเท่าไหร่ การฉายแสงอัลตราไวโอเลต เพื่อกระตุ้นเซลล์เม็ดสี การใช้เลเซอร์ และการผ่าตัดเพื่อนำผิวปกติมาแปะที่บริเวณรอยโรค ถึงแม้โรคนี้ไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวด แต่เป็นอุปสรรคด้านความสวยความงาม การหลีกเลี่ยงก็คือ ระมัดระวังไม่ให้เกิดการบาดเจ็บ ที่สำคัญคือต้องปกป้องผิวหนังจากแสงแดด เนื่องจากผิวขาวจากรอยด่างขาว เมื่อถูกแสงอาทิตย์จะไหม้เกรียม และต้องสวมเสื้อผ้าที่ปกปิดร่างกายมิดชิด อย่าออกข้างนอกในช่วงที่แดดแรง โดยเฉพาะช่วงเวลา 10.00 – 16.00 น.  

ผู้หญิงกับเส้นเลือดขอดดูเหมือนจะเป็นศัตรูกัน ยิ่งอายุมากขึ้น

รักษาตัวอย่างไร?  ไม่ให้เป็นโรคเส้นเลือดขอด

                  ผู้หญิงกับเส้นเลือดขอดดูเหมือนจะเป็นศัตรูกัน ยิ่งอายุมากขึ้น และมี ประวัติครอบครัวเป็นโรคนี้ก็จะมีความเสี่ยงเพิ่ม นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน การตั้งท้อง หรือผู้หญิงวัยทอง และแม้แต่การรับประทานยาคุมกำเนิดก็จะนำพาให้เกิดเส้นเลือดขอดตามมา นอกจากนี้ยังมีความอ้วนการนั่งหรือยืนนานๆก็เป็นสาเหตุในการเกิดเส้นเลือดขอดได้ด้วย

หากเริ่มมีอาการปวดน่องหลังจากนั่งหรือยืนนาน มีการปวดและเป็นตะคริวร่วมด้วย บวมที่เท้า มีผื่นที่ขาและคัน สีผิวเริ่มเปลี่ยนเป็นสีคล้ำ เป็นอาการบ่งชี้ว่าจะเป็นเส้นเลือดขอดแล้วล่ะ

เราจะการป้องกันการเกิดเส้นเลือดขอดได้ไหม?

                  แม้เราจะไม่สามารถป้องกันการเกิดเส้นเลือดขอดได้ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็ป้องกัน หรือลดการเกิดเส้นเลือดขอดไม่ให้เกิดใหม่ได้ ด้วยการปฏิบัติตนดังต่อไปนี้

·       เส้นเลือดฝอยหรือเส้นเลือดขอดที่หน้าป้องกันโดยการหลีกเลี่ยงการถูกแสงแดด แรงๆ

·       ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพราะการออกกำลังกายทำให้เลือดไหลเวียนได้ดี

·       หากใครมีน้ำหนักเกินควรลดน้ำหนัก

·       ใครชอบนั่งไขว่ห้างเป็นเวลานานควรเลิกพฤติกรรมนี้

·       หากต้องนั่งทำงานนานๆ พักบ้าง ด้วยการยกเท้าให้สูงขึ้น

·       ใครต้องนั่งทำงานนานๆ หรือต้องยืนทำงาน  ก็ต้องเปลี่ยนท่านั่นหรือท่ายืน ในทุกๆ ครึ่งชั่วโมง

·       ใครสวมรองเท้าส้นสูงเป็นเวลานานควรถอดออกเมื่อไม่จำเป็น

·       ในเรื่องของอาหารควรลดรับประทานอาหารเค็มจัด และเพิ่มการรับประทานอาหารจำพวกผักผลไม้ให้มากขึ้น

ปฏิบัติตนได้ตามนี้รับรองว่าห่างไกลหรือสามารถลดการเกิดใหม่ของเส้นเลือดขอดได้แน่นอน

ขาดสารอาหารทำให้ผมหงอกก่อนวัย

ขาดสารอาหารทำให้ผมหงอกก่อนวัย

เรื่องของอาหารการกิน เป็นเรื่องที่ต้องดูแลกันเป็นอย่างดี เพราะว่าอาหารสมัยนี้ ทั้งมีสีสันน่าทาน รสชาติอร่อย และหาทานได้ตลอด 24 ชั่วโมงกันเลย ไม่ต้องกลัวว่าเราจะหาการกินยากอย่างแต่ก่อน เพราะสมัยนี้ร้านสะดวกซื้อมากกว่า วัด หรือโรงเรียนรวมกันด้วยซ้ำ หาง่ายยิ่งกว่าตลาดสด และ มีทุกอย่างที่เราต้องการจริง ๆ แล้วแบบนี้จะไม่ให้อ้วนได้อย่างไร

แต่ในอาหารที่เราได้ทานเข้าไปนั้น รู้หรือไม่ว่า มีสารอาหารที่ เราต้องการอย่างพอเพียง หรือเกินพอดี แล้วอาหาร แบบนี้ ส่วนมากเน้นที่รสชาติเพื่อเอาใจลูกค้า แต่ต้องบอกว่า อาสารอาหารนั้นไม่ง่ายเลย ของอร่อยคู่กับของดี มักจะไม่ค่อยมีมา แต่ของอร่อยที่มีมา มักจะทำแต่ให้ติดใจ และอ้วนเท่านั้น ดังนั้นเราต้องดูด้วยว่ามีสารอาหารในปริมาณพอดี หรือน้อยเกินไปหรือไม่ ยิ่งถ้าสารอาหารไม่ครบ ก็ไม่สงผลอะไรให้ร่างกายนอกจาไขมันสะสมเท่านั้นเอง

ทุกอย่างในร่างการต้องการสารอาหารไปล่อเลี้ยงทั้งนั้น ยิ่งสารอาหารที่เราได้มาอย่างพอดีร่างกายจะใช้ได้หมด และ ใช้ได้อย่างเพียงพอไม่ต้องเก็บไปใช้ในวันหน้า ก็จะไม่กลายเป็นไขมันสะสมกันต่อไป แล้วสารอาหารบางอย่าง ก็ต้องดูด้วยว่ามีประโยชน์จริงหรือไม่ อย่างกับเส้นผม ถ้าสารอาหารไม่เพียงพอ ก็ต้องเติมจากภายนอกด้วย ป้องกันผมหงอก และป้องกันผมเสีย เรื่องของผมก็ถือเป็นเรื่องของหน้าตาที่จะทำให้เราดูดีขึ้น ทรงผม หรือสีผม จะบอกได้ว่า เราอายุเท่าไหร่ ถ้าผมขาวแล้ว รับรองว่าคนทายเกินอายุจริงอย่างแน่นอน

ผมหงอกที่เราไม่รู้ตัวคือจะเริ่มหงอกจากโคนขึ้นมาหาส่วนปลาย

การใช้สมองมาก ๆ ก็ผมหงอกได้เช่นกัน

ในการทำงานถึงแม้ว่าจะไม่ได้ตากแดดตัวดำ หรือต้องออกไปสู้กับงานหนักข้างนอก แต่ต้องบอกก่อนว่าไม่ว่าจะงานไหน ก็ต้องใช้สมองเช่นเดียวกัน อย่างกับการทำงานงานมาก ๆ ต้องใช้ความคิดมาก ๆ ก็ทำให้ ผมหงอกได้อย่างรวดเร็ว และในผมที่หงอกนี้จะไม่ได้ออกมามาหงอกอย่างเด่นชัดมาก แต่จะค่อย ๆ หงอกออกมา โดยที่เราไม่รู้ตัว  

ผมหงอกที่เราไม่รู้ตัวคือจะเริ่มหงอกจากโคนขึ้นมาหาส่วนปลาย บางครั้งบางที่เมื่อเราไม้ได้สังเกตบ่อย ผมหงอกเหล่านี้จะค่อย ๆ ทำการหงอกมาทีละน้อยและ ก็จะหงอกมากขึ้นตามลำดับ เมื่อรู้สึกตัวอีกที่ ก็กลายเป็นผมขาวไปแล้วกว่าครึ่งหัว  ยิ่งเป็นหงอกแบบครึ่ง ๆ กลางจะทำให้รู้ตัวช้ามาก ๆ ถ้าเป็นการหงอกเป็นแบบเต็มเส้นเราจะหาได้ง่ายและจะทำการกำจัดได้เป็นอย่างง่าย  ยิ่งเป็นการทำงานที่ต้องใช้สมองมาก ๆ อย่างนักบัญชี หรือ งานจำพวกที่ต้องใช้ความคิดที่หนัก  พวกนี้ จะไม่ค่อยมีการดูแลตัวเองมากนัก และไม่นานนักเมื่อเสร็จจากงานหนัก ๆ พอส่องกระจกอีกที ผมก็ขาวเต็มหัวหมดแล้ว

เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ต้องทำการลดการทำงานลงบ้างหรือเพิ่มสีสันในการทำงานไปบ้าง ยืดระยะการทำงานออกไปแล้วก็เพิ่มเวลาพักผ่อนกันสักหน่อย  อย่าคิดว่าเรื่องผมหงอก เป็นไปตามวัย คนอายุ แค่ 30 ผมก็หงอกได้ แต่ด้วยความเป็นจริง สมัยก่อน ๆ นั้นคนที่จะผมหงอกจะเริ่มตอนอายุ เกิน 50 ปีไปแล้ว จะคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาไม่ได้

ขอบตาดำ ปัญหาที่ไม่ไร้ทางแก้

ขอบตาดำ ปัญหาที่ไม่ไร้ทางแก้

ถ้าคุณไม่เคยสังเกตเลยว่า หน้าตาของคุณเป็นเช่นไรบ้าง สดใสมากน้อยขนาดไหน เพราะว่าถ่ายรูปเมื่อไหร่ใช้แต่ตัวช่วย ต้องบอกกันตรงนี้เลยว่า คุณกำลังผิดพลาดอย่างยิ่งใหญ่ และ ความสดใสของจริงคุณกำลังหายไป ถ้าคุณจำเป็นต้องออกไปแฮงค์เอาท์กับเพื่อน ๆ ทั้งที่ความจริงแล้วคุณมีหน้าไม่ต่างไปจากหมีแพนด้า เพราะขอบตาดำเป็นอย่างมาก  คุณจะทำอย่างไร และถ้าคุณกำลังสงสัยว่าทำไมคุณถึงขอบตาดำ ลองมาดูว่า คุณเคยทำแบบนี้ จริงหรือไม่ ถ้าเคยทำรับรองว่า ขอบตาคุณจะดำแบบนี้ตลอดไป

ถ้าคุณเป็นคนที่ต้องใช้สายตาในการจ้องมองจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ๆ จ้องทั้งวัน เพราะอ้างว่า งานเยอะ ทำไม่เสร็จแต่อันที่จริงแล้วคุณมั่วแต่กำลังติดตามเฟส ดาราคนโปรด และ ดูสิ่งที่ไร้สาระมากกว่างานที่ทำอยู่ และพอจะทำงานจริง ๆ ก็ทำให้สายตาเหนื่อยล้า ทำให้ขอบตาต้องทำหน้าหน้าที่หนักไปด้วย ด้วยเพราะต้องถางตากันมากกว่า 8 ชั่วโมงต่อวัน ถ้ามันเป็นเช่นนี้จริง ๆ ละก็บอกได้เลยว่า คุณจะขอบตาดำตลอดไป  ถ้าคุณไม่รีบแก้ไขให้ทันท้วงที่รับรองว่าครีมชนิดใด ก็เอาไม่อยู่ และ คุณจะต้องพึ่งพาครีมที่มีราคาแพงขึ้นไปเรื่อย ๆ เพราะมันไม่ได้ดำแค่ภายนอกที่คุณเห็น แต่กล้ามเนื้อภายใน ก็จะช้ำและดำตามกันไปด้วย

คุณจึงต้องรีบเปลี่ยนพฤติกรรมกันได้แล้ว ลดการมองหน้าจอ แล้วมามองหน้ากัน รับรองว่า ขอบตาคุณจะค่อย ๆ ดีขึ้น อย่างเป็นธรรมชาติ

http://darkeye.lnwshop.com/

การมีรอยแผลเป็น ตามร่างกายนั้นเป็นเรื่องแย่สำหรับทุกคน เพราะไม่ใช่แค่ผิวมีแผลเท่านั้น

 วิธีป้องกันรอยแผลเป็น

       การมีรอยแผลเป็น ตามร่างกายนั้นเป็นเรื่องแย่สำหรับทุกคน เพราะไม่ใช่แค่ผิวมีแผลเท่านั้น แต่หลังจากการรักษาบาดแผลให้หายดีแล้วยังต้องเผชิญกับปัญหา รอยแผลเป็นตามมาอีก ยิ่งบาดแผลลึกจนถึงชั้นกล้ามเนื้อ อาจเสี่ยงต่อการเกิด รอยแผลเป็น แบบนูนหนา และ คีลอยด์ เพราะฉะนั้นเรามาเรียนรู้ถึงวิธีการดูแลผิวที่เกิดแผลเพื่อลดโอกาสการเกิดรอยแผลเป็นกันดีกว่าค่ะ

         การป้องกันแผลเป็นธรรมดา

            ในกรณีที่เกิดแผลขึ้นมาแล้ว การดูแลรักษาทำความสะอาดแผลอย่างถูกวิธีเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เนื่องจากจะเป็นการช่วยให้แผลหายเร็ว และเมื่อแผลหายเร็วเท่าใดโอกาสเกิด รอยแผลเป็น ก็จะน้อยลงเท่านั้น

            สาเหตุอื่นๆที่มีผลทำให้แผลหายช้า ได้แก่ อายุ ยาคอร์ติโคสตีรอยด์ การขาดอาหาร การสูบบุหรี่ อุณหภูมิ ความชื้น ความเป็นกรดด่าง และออกซิเจน เนื่องจากมีการค้นพบว่าแผลจะหายได้ดีขึ้นในสภาวะแวดล้อมที่มีอุณหภูมิที่อบอุ่นกว่าอากาศเย็น

            การป้องกันแผลเป็นที่โตนูน

         เมื่อเกิดบาดแผลใหม่ๆ แนะนำให้ผู้ป่วยนวด หรือกดบริเวณนั้นๆ โดยนวดอย่างสม่ำเสมอในระยะประมาณ 3-6 เดือนแรก จะช่วยให้รอยแผลเป็นนั้นลดการขยายตัวและนูนเกินได้

            การป้องกันแผลเป็นจากไฟไหม้หรือน้ำร้อนลวก

            สำหรับบาดแผลที่มีขนาดใหญ่ เช่นแผลเป็นที่เกิดจากไฟไหม้หรือน้ำร้อนลวก อาจจำเป็นที่จะต้องใช้เครื่องมือพิเศษ หรือผ้ารัด หรือ pressure garment การสวมใส่ pressure garment เพื่อรัดบริเวณที่เกิดแผลเป็น ในช่วงระยะประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปีแรกหลังจากได้รับอุบัติเหตุ

            แต่การนวดก็ยังสามารถลดการเกิดแผลเป็นได้เช่นเดียวกัน แต่ควรจะเป็นในช่วงระยะแรกที่แผลเป็นมีอาการอักเสบอยู่ การนวดก็จะช่วยลดไม่ให้แผลเป็นมีการขยายใหญ่โตได้

เวลาเกิดบาดแผล นอกจากต้องการให้แผลหายเร็วแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ใครหลายคนเป็นห่วงและกังวลคือ "รอยแผลเป็น"

รู้ให้ลึกเรื่องรอยแผลเป็น

เวลาเกิดบาดแผล นอกจากต้องการให้แผลหายเร็วแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ใครหลายคนเป็นห่วงและกังวลคือ "รอยแผลเป็น" เพราะหากเกิดขึ้นมันจะอยู่ติดตัวคุณไปตลอดชีวิต ซึ่งในวันนี้มีสาระความรู้เกี่ยวกับ "รู้ให้ลึกเรื่องรอยแผลเป็น" มาฝากค่ะ

รอยแผลเป็นเกิดจากกระบวนสมานรักษาแผลตามธรรมชาติ โดยจะรักษาแผลฉีกขาดของเนื้อเยื่อ มีการสร้างคอลลาเจนมาทดแทนเยื้อเยื่อที่ถูกทำลายไป ซึ่งหลังจากแผลหายดีจะมีการทิ้งรอยแผลเป็นไว้ รอยแผลเป็นมักเกิดขึ้นในกรณีแผลผ่าตัด แผลจากโรคสุกใส เป็นต้น นอกจากบริเวณผิวหนังภายนอกแล้ว รอยแผลเป็นยังสามารถเกิดขึ้นกับอวัยวะภายในร่างกายได้เช่นกัน

ปัจจัยที่มีผลต่อการเกิดรอยแผลเป็นมาจาก 2 ส่วน

ส่วนที่ 1 การเกิดแผลเป็น : โดยดูจากความรุนแรงของแผล หรือการฉีกขาดของเนื้อเยื่อว่าตื้น - ลึกเพียงใด

ส่วนที่ 2 การรักษา : หากบาดแผลเกิดแค่ในระดับหนังกำพร้าซึ่งเป็นผิวชั้นนอกสุด เมื่อแผลหายดีอาจไม่เกิดรอยแผลเป็น หรือถ้ามีก็จะเกิดขึ้นเล็กน้อย เวลาผ่านไปรอยดังกล่าวก็จะจางหายไปได้เองโดยที่ไม่ต้องใช้วิธีรักษา สำหรับบาดแผลที่มีการฉีกขาดไปจนถึงชั้นหนังแท้ กล้ามเนื้อ หรือกระดูก เมื่อหายดีจะมีการทิ้งรอยแผลเป็นไว้ การดูแลรักษาแผลจึงถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ เพราะยิ่งดูแลดีมากเท่าไหร่ยิ่งทำให้แผลหายเร็ว และช่วยลดการเกิดรอยแผลเป็นให้เกิดขึ้นน้อยลงได้อีกด้วย

ถ้าไม่อยากให้มีรอยแผลเป็นบนร่างกาย จึงควรระมัดระวังตัวเอง แต่หากเกิดบาดแผลแล้ว ควรดูแลรักษาบาดแผลให้ดีนะคะ

การใช้ครีมสำหรับรักษาผิวแตกลายก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยรักษาผิวให้แก่คุณอย่างได้ผล

วิธีเลือกใช้ครีมรักษาผิวแตกลาย

การใช้ครีมสำหรับรักษาผิวแตกลายก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยรักษาผิวให้แก่คุณอย่างได้ผล แต่จะให้ได้ผลดีนั้นคุณต้องเลือกใช้ให้ถูกต้องกันด้วยนะคะ สำหรับวิธีการเลือกคุณสามารถพิจารณาได้ดังนี้ค่ะ

1. เลือกครีมที่มีส่วนผสมของ Hyaluronic acid ซึ่งเป็นสารเคมีที่มีสรรพคุณในการช่วยต่อต้านริ้วรอย และลดปัญหาการแตกลาย และในปัจจุบันครีมที่ใช้รักษาผิวแตกลายส่วนมากจะมีส่วนผสมของสารชนิดนี้

2. เลือกตามคำแนะนำของแพทย์ เพราะจะช่วยทำให้คุณมั่นใจในคุณภาพของครีมว่าสามารถช่วยรักษาผิวแตกลายอย่างได้ผล

3. เลือกครีมที่มีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์และครีมที่มีส่วนผสมของสารบำรุงผิว เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่ผิว สารต่างๆ เหล่านี้ยังช่วยทำให้ผิวยืดหยุ่นได้ดี ซึ่งจะมีผลในการช่วยลดปัญหาผิวแตกลาย

4. เลือกใช้ครีมที่เป็นที่รู้จักกันทั่วไปและจากแหล่งจำหน่ายที่เชื่อถือได้ เพราะจะทำให้คุณมั่นใจได้ในเรื่องของคุณภาพ

5. สำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางหรือผิวแพ้ง่าย ควรเลือกใช้ครีมที่ผลิตมาจากสารจากธรรมชาติ จะช่วยลดความเสี่ยงในการแพ้ได้เป็นอย่างดี เพราะถ้าผิวเกิดแพ้ครีมขึ้นมาอาจจะส่งผลให้ผิวของคุณแตกมากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิมได้

นอกจากการเลือกใช้ครีมแล้วการปฏิบัติตามคำแนะนำหรือวิธีการใช้ก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะจะมีส่วนช่วยให้ผิวแตกลายของคุณหายไวยิ่งขึ้น ดังนั้นถ้าอยากให้ผิวกับมาสวยในเร็ววันก็อย่าลืมปฏิบัติตามคำแนะนำที่ระบุไว้ในตัวผลิตภัณฑ์กันด้วยนะคะ

เราคงต้องยอมรับว่าการกำจัดขนด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยนั้นถือว่ากำลังมาแรงจริง ๆ

กำจัดขนลึกถึงรากด้วย Diode Laser

         เราคงต้องยอมรับว่าการกำจัดขนด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยนั้นถือว่ากำลังมาแรงจริง ๆ เพราะไม่เพียงแต่มีความสามารถในการกำจัดขนได้อย่างยอดเยี่ยมเท่านั้น แต่เทคโนโลยีเหล่านี้ยังมีความสามารถในการกำจัดขนจนลึกถึงรากชนิดกำจัดขนได้อย่างถาวรและอาจไม่มีขนกลับขึ้นมาอีก จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมหนุ่มสาวทั้งหลายจึงเลือกที่จะใช้วิธีการเหล่านี้ในการกำจัดขน

         สำหรับการกำจัดขนลึกถึงรากด้วย Diode Laser นั้น เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่เข้ามาเป็นตัวเลือกดี ๆ ในการกำจัดขนของหนุ่มสาวยุคนี้ ด้วย Diode Laser มาพร้อมกับความสามารถในการให้พลังงานที่สูงกว่าและให้ผลดีกว่าการกำจัดขนแบบ IPL เนื่องจากการกำจัดขนแบบ Diode Laser ให้ความยาวคลื่นที่เหมาะสมและสม่ำเสมอมากกว่า จึงสามารถทำลายขนได้ลึกถึงรากได้จริง โดยไม่ส่งผลกระทบใด ๆ ต่อผิวหนัง ทำให้รู้สึกสบายและไม่รู้สึกเจ็บมากนัก ซึ่งการกำจัดขนด้วย Diode Laser ให้ได้ผลอย่างมีประสิทธาภาพจำเป็นต้องทำซ้ำอีกประมาณ 4 – 8 ครั้ง จึงจะสามารถกำจัดขนได้อย่างถาวรอย่างแท้จริง

         ปัจจุบันการกำจัดขนแบบ Diode Laser เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ถึงแม้ว่าการกำจัดขนแต่ละครั้งจะต้องเสียค่าใช้จ่ายประมาณครั้งละ 2,000 – 3,000 บาทก็ตาม แต่เมื่อเลือกใช้วิธีการกำจัดขนแบบนี้แล้ว ก็ถือว่าคุ้มค่าและได้ผลอย่างดีเยี่ยม เพราะเป็นการกำจัดขนอย่างถาวร ขนไม่กลีบมาขึ้นอีกครั้ง ส่งผลดีทั้งต่อรูปแบบในการใช้ชีวิตที่ไม่ต้องคอยกำจัดขนบ่อย ๆ และยังช่วยให้เกิดความสวยงามและสะอาดตาอีกด้วย...

ผลกระทบจากเลเซอร์กำจัดขนถาวร

ผลกระทบจากเลเซอร์กำจัดขนถาวร

         ขนเกิดขึ้นมาก็เพื่อปกป้องร่างกายจากสิ่งแปลกปลอม หากมีมากจนเกินไปอาจถูกมองว่าเป็นส่วนเกินที่เกิดขึ้นในร่างกาย เป็นอุปสรรคต่อการแต่งหน้า แต่งตัว  เป็นเหตุให้มีการความต้องการที่จะกำจัดออก ซึ่งก็มีหลากหลายวิธี แต่วิธีที่ได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจคือการทำเลเซอร์ เนื่องจากมีผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นตามมามากมาย จึงควรคิดคำนึงสักนิดก่อนตัดสินใจทำเลเซอร์ ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อผิวหนัง และร่างกาย ซึ่งจะรุนแรงหรือไม่ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ได้รับแสงเลเซอร์ และความสามารถในการต้านทานของผู้รับการรักษา อาการโดยทั่วไปจะเป็น ดังนี้

1.     ผิวจะไวต่อแสงแดด แพ้ง่าย เนื่องจากเลเซอร์ทำให้เกิดความร้อนที่ผิวชั้นบน ผิวหนังจึงอักเสบง่ายและเกิดรอยแผล

2.     ผิวระคายเคืองต่อเครื่องสำอางง่าย ผิวอ่อนแอ

3.    ผิวแห้งเป็นขุย ความร้อนจากเลเซอร์ทำให้ผิวแห้งเป็นขุย

4.     ผิวเป็นกระ จุดด่างดำได้ง่าย หากดูแลไม่ถูกวิธี ไม่ทาครีมกันแดด หรือทายาไม่ครบ

5.     ต้องใช้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่แพทย์สั่งเท่านั้น ส่วนใหญ่จะมีราคาสูง ไม่สามารถใช้ครีมตามท้องตลาดทั่วไปได้

6.    ค่าใช้จ่ายสูง ทั้งค่าใช้จ่ายต่อครั้งที่ และต้องทำซ้ำอีกหลายครั้งจนกว่าจะกำจัดขนได้หมด

7.     การรับเลเซอร์ทำให้ได้เกิดความเจ็บ

8.    มีรอยแผล และรอยลอกที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ

 เมื่อทราบถึงผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น ก็อยู่ที่ท่านว่าจะตัดสินใจยอมรับการรักษาหรือไม่ หากผลลัพธ์ที่ได้เมื่อเทียบกับผลกระทบมีความคุ้มค่ากว่า ก็เป็นเรื่องที่ควรจะทำ หากคิดว่าทนไม่ได้หรือไม่คุ้มก็ควรหลีกเลี่ยงและปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติจะดีที่สุด

http://www.kalohair.com/

การกำจัดขนด้วยเลเซอร์เป็นการนำพลังงานแสงที่มีความเข้มข้นสูง

ขั้นตอนการทำเลเซอร์กำจัดขนถาวร

การกำจัดขนด้วยเลเซอร์เป็นการนำพลังงานแสงที่มีความเข้มข้นสูง มากใช้ ทำให้ผิวเรียบเนียน ไร้ขน ซึ่งเป็นวิธีที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลาย มีข้อดีนอนพักฟื้นหลังการรับบริการ ควบคุมการเจริญเติบโตของขนได้อย่างถาวร ผิวหนังชั้นนอกได้รับการกระทบกระเทือนน้อย และสามารถรักษาอาการขนคุดได้ ทีนี้เรามาดูว่าการกำจัดขนด้วยเลเซอร์มีขึ้นตอนการทำอย่างไร หลังจากตรวจสอบผิวหนังและวิเคราะห์เส้นขนแล้ว มีขั้นตอนในการรักษา ดังต่อไปนี้

·      โกนขนและทดสอบกับผิวหนังในจุดเล็ก ๆ เพื่อปรับระดับ Laser ให้เหมาะสมกับผิว และเส้นขนของคุณ

·      การยิงเลเซอร์ แต่ละครั้งใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที ก็กำจัดขนได้หมดจด โดยหลังการรับบริการแต่ละครั้งเส้นขนระที่ 4 ซึ่งมีอยู่ประมาณร้อยละ 25 – 30 ของขนทั้งหมดจะหมดไป

·      ในการรับบริการครั้งต่อไป ควรรอประมาณ 1 – 2 เดือน (แล้วแต่บริเวณ) เพื่อให้มีขนระยะที่ 4 ขึ้นมาร้อยละ 25 – 30 ของขนทั้งหมด ดังนั้น ในการกำจัดขนทั้งหมดควรรับบริการประมาณ 4 – 5 ครั้ง

·      ผิวที่ได้รับการรักษาจะขาวสดใสและเรียบเนียนขึ้น ลดกลิ่น แก้ไขขนคุม รูขุมขนจะมีขนาดเล็กลงและลดการอุดตันของรูขุมขน

 สิ่งสำคัญคือการดูแลที่ภายหลังการรักษาด้วยเลเซอร์ เนื่องผิวหนังจะมีสภาพบอบบางกว่าปกติ ระคายเคืองง่าย และไวต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ผิวจะมีการสูญเสียน้ำ และไวต่อแสงแดดมากขึ้น บางครั้ง       อาจมีแผลซึ่งจะทำให้เกิดรอยคล้ำจากแสงแดด หรืออาการระคายเคืองของผิวจากการรักษา ภายหลังการทำเลเซอร์จึงต้องมีการดูแลผิวหนังเป็นพิเศษ