โรคสะเก็ดเงิน...ใช้ยาต้านไวรัสเอดส์รักษาได้ จริงหรือมั่ว

โรคสะเก็ดเงิน...ใช้ยาต้านไวรัสเอดส์รักษาได้ จริงหรือมั่ว

         คำถามนี้มีผู้หญิงท่านหนึ่งบอกว่าเธอเป็นโรคสะเก็ดเงิน แต่ไปอ่านเจอที่ไหนสักแห่งว่า ใครต้านยาต้านไวรัสแล้วทำให้โรคสะเก็ดเงินละระดับความรุนแรงลง...คำตอบคือโรคสะเก็ดเงิน...ใช้ยาต้านไวรัสเอดส์รักษาได้เป็นเรื่องมั่ว

ทำไม !! เพราะว่าโรคสะเก็ดเงินมีความผิดปกติเฉพาะที่เซลล์ผิวหนัง โดยพบว่ามีการแบ่งตัวของเซลล์ผิวหนังสูงกว่าปกติ 10 เท่า ทำให้เกิดรอยผื่นเป็นปื้นหนา ที่พบได้บ่อยจะเป็นแบบผื่นนูนขนาดหยดน้ำหรือเหรียญกระจายทั่วตัว ผื่นอีกชนิดคือผื่นเรื้อรังเฉพาะตาที่ต่างๆ

ส่วนผื่นของโรคเอดส์นั้น ในอาการเริ่มต้นอาจจะเกิดขึ้นในรูปแบบของผื่นที่ปรากฏขึ้นเป็นหย่อม ๆ บนผิวที่มีสีซีดจางแล้วค่อยๆ เพิ่มไปยังบริเวณรอบข้าง  ผื่นอาจจะเกิดขึ้นและจางหายไปภายในหนึ่งสัปดาห์หลังจากเชื้อเอชไอวีได้เติบโตมากยิ่งขึ้น  ผื่นอาจเป็นจุดๆ สีดำๆ จะเห็นได้ว่าผื่นของสะเก็ดเงินกับผื่นของเอดส์นั้นแตกต่างกัน

ส่วนยารักษาโรคสะเก็ดเงิน มี 3 กลุ่ม คือ ยาทา ยารับประทาน และยาฉีด ยาทา ได้แก่ยาทาสเตียรอยด์ ยาทากลุ่มน้ำมันดิน ยาทากลุ่มแอนทราลินหรือดิทรานอล  นอกจากนี้ยารับประทานและยาฉีดที่ใช้รักษาโรคสะเก็ดเงิน มีดังนี้ คือยารับประทานเมโทเทร็กเซต ยารับประทานเรทินอยด์  ยารับประทานเมโทเทร็กเซตและเรทินอยด์ ยารับประทานเมโทเทร็กเซตและเรทินอยด์ ยารับประทานไซโคลสปอริน และยาฉีดกลุ่มชีวสาร

ส่วนชนิดจองยาที่ออกฤทธิ์ต้านเชื้อไวรัสเอชไอวีจึงแบ่งได้เป็น    กลุ่มคือ ยาที่ยับยั้งเอนไซม์ reverse transcriptase และยาที่ยับยั้งเอนไซม์โพรเทส ปัจจุบันยังมียาใหม่อีกชนิดหนึ่งที่ออกฤทธิ์ยับยั้งการเกาะติดของไวรัสที่เยื่อหุ้มเซลล์ของทีลิมโฟไซต์คือ ยา Enfuvirtide ซึ่งมีในรูปแบบของยาฉีดใช้ในกรณีที่เกิดการดื้อยาตัวอื่นๆ

สรุปว่าทั้งลักษณะของผื่นสะเก็ดเงินและกลุ่มของยาที่ใช้ก็มีความแตกต่างกันจากโรคเอดส์ เพราะฉะนั้นใครที่เป็นโรคสะเก็ดเงินจะใช้ยาต้านไวรัสเอดส์รักษาคงไม่เป็นความจริง...ส่วนเรื่องจริงก็คือเมื่อคนเป็นโรคสะเก็ดเงินได้รับเชื่อไวรัสHIV ยิ่งจะไปกระตุ้นทำให้ผื่นสะเก็ดเงินลุกลามมากยิ่งขึ้น